ກາບຣຽນ ທ່ານຫົວຫນ້າ ບຸນທັນ ປູສວັນ ແລະທຸກໆຫົວຫນ້າ...

ຂພຈ ບໍ່ລັງກຽດທີ່ຈະອ່ານ ຂໍ້ຄວາມ ທຸກໆວັກທຸກຕອນ ຂອງທ່ານ ດ້ວຽຄວາມຕັ້ງໃຈ ທັ້ງໆ ທີ່ເຂົ້າໃຈດີ
ວ່າ ໃນອາຣົມຂອງທ່ານ ຍັງຮ້ອນແຮງຢູ່ ບໍ່ທັນເຢັນເທື່ອ...ໂດຍສເພາະ ຂພຈ ກໍ່ບໍ່ທັນເຂົ້າໃຈອີກວ່າ ໃນ
ສອງວັນຜ່ານມານີ້ ບໍ່ຮູ້ວ່າທ່ານ ໄປກິນຮັງແຕນຈາກໃສມາ....

ຂພຈ ໄດ້ເຫັນຊື່ຂອງທ່ານ ແລະທ່ານ ບຸນຄົງ ປະກົດຂຶ້ນໃນແວດວົງຂອງ ນັກຕໍ່ສູ້ ເພື່ອປະເທດຊາຕຂອງ
ພວກເຮົາ..ແລະນຶກພູມໃຈ ມາຕລອດ ວ່າ ພາຍຫລັງທີ່ນັກ ຕໍ່ສູ້ລຸ້ນເກົ່າໄດ້ຈາກໂລກໄປ ຍ້ອນຄວາມຊະຮາ
ແລະທີ່ຍັງເຫລືອບໍພໍເທົ່າໃດຄົນກໍ່ ທຸພົລພາບໄປຫມົດແລ້ວ ລວມທັງ ຂພຈ ນໍາດ້ວຍ...ການທີ່ໄດ້ເຫັນຄົນລຸ້ນ
ໃຫມ່ ທໍາການສືບທອດການຕໍ່ສູ້ ເຮົາ ຜູ້ເຖົ້າດີໃຈ ຫາອັນຈະປຽບບໍ່ໄດ້...ແຕ່ລະອາທິດ ຂພຈ ແລະ ທ່ານ
ບຸນລຽນ ໄດ້ໂອ້ລົມກັນທາງໂທຣະຊັພ ບໍໄດ້ຂາດ ໂດຍສເພາະກໍ່ໂອ້ລົມກັນ ກ່ຽວກັບພວກທ່ານ ສອງຄົນ ຄື :
ບຸນທັນ ແລະ ບຸນຄົງ ທີ່ພວກເຮົາ ຖືວ່າເປັນຫົວຫນ້າຂອງພວກເຮົາ....

ແຕ່ ພໍມາເຫັນ ຄໍາຕູ່ຫາຂອງທ່ານ ພ້ອມທັງປະນາມວ່າ ພວກລຸ້ນເກົ່າ ບໍ່ໄດ້ທໍາການຕໍ່ສູ້ ເພື່ອປະຊາທິປະຕັຍ
ໃຫ້ແກ່ລາວ : I never said Lao Nok that they were not fighting for democracy in Laos
but I should say : they fought each other among the Lao leaders. ຂພຈ ມີແຕ່ໄດ້ຍິນ ປະໂຍກ
ທີ່ທ່ານເອົາມາໄຊ້ ນີ້ຈາກປາກ ຂອງພວກທີ່ ແນວລາວສົ່ງອອກມາຕ່າງປະເທດ ເພື່ອ ສິ້ງຊອມ ສອດແນມ
ເພື່ອລາຍງານເຂົ້າໄປ ສປປລ ເພື່ອໃຫ້ແກວດັລສູນ ເທົ່ານັ້ນເອງ...ບໍ່ເຄີຽໄດ້ຍິນ ແລະບໍ່ເຄີຽເຫັນວ່າ ພວກ ກອງ
ກໍາລັງ ກຼ້ຊາຕ ຂອງພວກເຮົາ ຈະຍົກທັບຍິງກັນຈັກເທື່ອ..ຈະມີ ກໍພຽງດະດານ ແນວຄິດ ເລັກນ້ອຽ ເທົ່ານັ້ນ...

"International rule age 65 can retire but they did not give chance for young people
to contnue the job" : ຄວາມຫມາຍໃນ ປະໂຍກນີ້ ກໍ່ເຊັ່ນດຽວກັນ....ຕອນທີ່ ຂພຈ ໂຕນຫນລອດຕາຍ
ມາເຖິງ ເມຣິກາ ຂພຈ ກໍ ມີອາຍຸ ພຽງ ສີ່ສິບເກົ້າປີ...ມາເຖິງ ບໍ່ພໍປີ ກໍມີຜູ້ຕາງຫນ້າ ອົງການຈັດຕັ້ງ ຂອງ
ແນວໂຮມ ປົດປ່ອຍຊາຕ ຊຶ້ງແມ່ນ ຫົວຫນ້າພວກເພິ່ນ ກໍ່ແມ່ນ ທ່ານ ພຍາຫລວງ ເມືອງຈັນ ອູ່ທອງ ສຸວັນ
ນະວົງສ໌ ເປັນປະທານ ລວມທັງ ອາດີດ ແປດພຍາ ໃນ ຣະບອບເກົ່າ ໄດ້ໄປທາບທາມ ໃຫ້ ຂພຈ ເຂົ້າຮ່ວມ...
ຊຶ້ງການທີ່ ທ່ານ ເວົ້າ ວ່າ ພວກຜູ້ເຖົ້າ ບໍ່ປ່ອບ ໂອກາດໃຫ້ ຊາວຫນຸ່ມ ເຂົ້າຮ່ວມ ນັ້ນ ຄົງຈະຜິດແລ້ວ...ອີກ
ປະກາຫນຶ່ງ ທີ່ທ່ານ ບໍ່ຮູ້ ວ່າແມ່ນໃຜ ເປັນຫົວຫນ້າ ນັ້ນ ກໍ່ເຊັ່ນດຽວກັນ ເພາະ ທ່ານຫົວຫນ້າ ເພິ່ນກໍ່ຕັ້ງຖິ່ນ
ຖານ ຢູ່ Australie ໃນປະເທດດຽວກັບທ່ານນີ້ເອງ...ອາດຈະມີບາງຊາວຫນຸ່ມທີ່ພວກເພິ່ນບໍ່ໃຫ້ຮ່ວມ ຖ້າ
ເພິ່ນຮູ້ວ່າ ມາເຄື່ອນໃຫວ ໃຫ້ແກ່ ຝ່າຽ ຄມນ...ແຕ່ ຂພຈ ຄິດວ່າ ທ່ານ ຄົງບໍແມ່ນ ລາວລິ້ງ ແນ່ນອນ...

ທ່ານ ຖາມຫາຫົວຫນ້າ ຈາກ ຂພຈ ວ່າຮູ້ບໍ່ ຕອບວ່າຮູ້ແນ່ນອນ : ຫົວຫນ້າ ລຸ້ນເກົ່າ ກໍ່ໄດ້ບອກໄປແລ້ວ ແຕ່
ທ່ານ ບໍ່ຢາກຮູ້ເອງ....ສ່ວນ ຫົວຫນ້າ ໃຫມ່ປະຈຸບັນນີ້ນັ້ນ ກໍ່ແມ່ນ ທ່ານເອງນັ້ນເດ...ທ່ານ ບຸນຄົງ ແລະກໍ່ເທົ້າ
ທີ່ຮູ້ ກໍ່ ມີ ຣັຖບານພັດຖິ່ນ ຂອງທ່ານ ດຣ ວິລລຽມ ບົວຣອຍ ແລະ ຣັຖບາລອື່ນໆອີກ ທີ່ຂພຈ ໃຫ້ຄວາມສໍາຄັນ
ຫມົດທຸກໆການຈັດຕັ້ງ ບໍ່ເຄີຽໄດ້ລົບລູ່ ຫນ່ວຽໃດຈັກດີ້ ເພາະ ຮູ້ວ່າພວກເພິ່ນ ຕໍ່ສູ້ເພື່ອຊາຕ ທຸກ ທ່ານ....
ນອກຈາກນີ້ແລ້ວ ຂພຈ ຍັງມີຄວາມເຫລື້ອມໃສຕໍ່ການຈັດຕັ້ງ ຂອງທ່ານ ດຣ ບຸນທອນ ແລະ ເພັດນາຣີ ທີ່ ຂພຈ
ເຫັນເປັນຍອດນາຣີ ລາວ ທີ່ກ້າເກັ່ງ ອີຫລີ ຂໍສັລລະເສີນ ຢ່າງສຸດໃຈ...

ຂພຈ ກໍ່ອະທີບາຍໄດ້ແຕ່ພຽງເທົ່ານີ້....ສ່ວນຕົວ ຂພຈ ເອງ ກໍ່ ຢູ່ກັບ wheel chair ແລ້ວ ແລະ ເພືອ່ນຜູ້
ລອດຕາຍມານໍາກັນ ທີ່ຕິດຕໍ່ກັນຢູ່ທຸກໆອາທິດ ບຸນລຽນ ນັ້ນ ເພິ່ນກໍ່ ຍ່າງສາມຂາແລ້ວ....ສນັ້ນ ພວກເຮົາ
ບໍ່ແມ່ນແຕ່ສອງຄົນເທົ່ານີ້ ຂໍຝາກອະນາຄົດໃວ້ກັບນ້ອງນຸມລູກຫລານ ລຸ້ນໃຫມ່ນີ້ ດ້ວຽຄວາມຫວັງດີ.....

http://www.youtube.com/watch?v=imoZB4ve7yQ

The Prince and the Currywurst http://www.wochenblatt.de/nachrichten/kelheim/regionales/Der-Prinz-und-die-Currywurst;art1176,57462
// ข่าวและภาพร้านอาหารที่เยอรมันที่เสี่ยโอ เมีย ลูก และสมุน บังคับให้เขาต้อนรับตนเองเป็นพิเศษเพื่อกินไส้กรอก และ กาแฟ และในที่สุด ก็ชักดาบเบี้ยวไม่จ่ายเงิน เจ้าของร้านบอกว่าพวกเจ้ามาสร้างความรำคาญและนำความซวยมาให้ทางร้าน

เจ้า ข้าเอ้ย พวกเจ้ามันจะให้ค่าแรงกรรมกรวันละ 150 บาท เงินทั้งประเทศที่หาได้ต่อปี (จีดีพี) มี 10 ล้านล้านบาท ค่าแรงกรรมกรทั้งประเทศแค่ 1 ล้านล้านบาท แค่เอาเงินค่าเช่าที่ดินและกำไรของไอ้บอดต่อปี มาจ่ายกรรมกร จะได้เพิ่มอีกวันละ 500 บาทต่อคน จีดีพี ปี2553 จำนวน334,026 ล้าน:US$(10ล้านล้านบาท) ***ค่าแรงทั้งปี แค่ 1 ล้านล้านบาท--ที่เหลือเจ้าเอาไปแดกกว่าครึ่ง http://bit.ly/n84IRs
18 Jul 11, 03:14 PM
.now, is not it an official program of visits, but now always seeps through, such as recreational use of His Royal Highness looks when he is traveling in Bavaria...tens of minibuses, limousines two: the royal entourage was parked directly in front of the strawberry field. The driver of the limousine left, the motors continue to run the way during the two hour Pflückaktion...Security forces had inspected the entire place, for ladies Just in case, even the toilets are disinfected again. But then everything happened very quickly. The convoy stopped, ordered four curry sausages and ten cappuccino had to pack up everything and off you went. สื่อเยอรมันตีข่าว ว่าเสี่ยโอมาเยอรมันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้มาเยือนอย่างเป็นทางการ มาเก็บสตอเบอรี่ ใช้รถเป็นขบวนเปิดเครื่องทิ้งรอไว้ทั้งสองชั่วโมงครึ่งที่เก็บสตอเบอรี่ เสร็จแล้วก็ไปกินอาหารที่ภัตราคารใกล้ๆ ไปแวะแค่แป๊บเดียว แค่ซื้อไส้กรอก แม่งต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าเช็คพื้นที่ แถมไปยุ่มยามในห้องน้ำของภัตราคาร เพื่อให้แน่ใจว่าห้องน้ำสะอาดปราศจาคเชื้อโรค แถมค้างหนี้ค่าอาหารเพราะเงินมีไม่พอ
http://www.tz-online.de/nachrichten/bayern/prinz-erdbeerfeld-1326505.html

เราต้องประโคมข่าวไอ้บอดรวยที่สุดในโลก แต่รัฐบาลไทยเป็นหนี้นักธุรกิจเยอรมันจนต้องยึดสนามบิน
ท็จจริงประการใดไม่ทราบ ข่าวแว่วมาว่า สาเหตุที่มีการดึงชื่อยิ่งลักษณ์เอาไว้นั้น เป็นเพราะมีใบสั่งมาจากมือที่มองไม่เห็น อันเนื่องมาจากมีการหารือกันที่บ้านของป.ปลาเจ้าเดิม แล้วมีการต่อสายตรงมาให้กกต.ดึงเรื่องการรับรองยิ่งลักษณ์ไว้ก่อน เพื่อปลุกให้คนเสื้อแดงออกมาต่อต้านจนเกิดการจลาจล ซึ่งนั่นจะเป็นเหตุผลให้เข้าทางตีนเผด็จการที่จะสามารถลากรถถังออกมายึด อำนาจได้
หนังสือพิมพ์ฝรั่งภาคภาษาอังกฤษที่พอหาอ่านได้ เช่น อินเตอร์เนชันแนล เฮรัลด์ ทรีบูนด์ และ ดิเอเชียน วอลล์สตรีท เจอร์นัล วิจารณ์กันขรมว่า ทำไมคณะกรรมการการเลือกตั้งของไทย มีอำนาจมากมายเช่นนั้น บางสำนักถึงกับวิจารณ์ว่าเป็นการ “รัฐประหารเงียบทางกฎหมาย” หรือการเตะสกัดเส้นทางนายกฯหญิงไปโน่นเลย

คุณหนุ่มค่ะ น่าจะลงข่าวว่าเจ้าชายหัวกวย มันใกล้เคียงหน่อย

ไอ้เหี้ยสั ตว์นรก..หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นพาดหัวข่าวเกี่ยวกับไอ้เหี้ยโอลูกหมาว่า.."เจ้าชายและใส้กรอก"
...นึกภาพดูว่าความเหี้ยความระยำที่มีแบบ สุดๆทุกรูป ทุกแบบที่ประชาชนคนไทยได้รับจากพวกมันกว่าครึ่งศตวรรษ..จะป่าเถื่อน โหดร้ายและรุนแรงขนาดใหน...สมควรที่คนไทยทุกคนจะลุกขึ้นมาต่อต้านไอ้กลุ่มคน ชาติหมาพวกนี้ได้แล้ว...และยิ่งไปกว่านั้นการต่อต้านประนามอย่างรุนแรงจะ ต้องกระทำต่อไอ้ชาติหมาทุกตัวที่ยังนิยมยกย่องและจงรักภักดีต่อไอ้กลุ่มชาติ หมาพวกนี้ด้วย...อย่าได้คิดว่ามันคือพวกเดียวกับเราเด็ดขาด

ຜູ່ກໍ່ການຮ້າຍຕັວສຳຄັນຂອງພວກໂຈນສຍາມ ໃນອະດິດເຄິຍຢຶດສນາມບິນສຸວັນນະພູມຮ່ວມກັບບັກໂຈນ ສົນທິ ລິ້ມທອງກູນ(ອົມເງິນຣັຖບານລາວ300(ສາມຮ້ອຍ) ລ້ານ ດລ ເພື່ອຍາກມາສ້າງ ລາວ ທິວິສະຕາຣ ສູ້ ແລະ ແຄ່ງກັບ ລາວຄົມຂອງບັກແມ້ວ ເຈັກປົນລາວຈາກ ຊຽງໄຫ່ມ ອ້າຍຂອງສາວຍີງລັກຜູ້ທິ່ ຈະກ້າວມາສູ່ ນຍ ຍິງທິ່ຄົນທຳອິດຂອງສຍາມ
ຖ້າບັກບອດບໍ່ເອົາກົດຫມາຍມາຣັຖປະຫານຫລິ້ນງານກ່ອນ


“กษิต”ถวายรายงานสมเด็จพระบรมฯ เรื่องความคืบหน้ากรณีศาลเยอรมันสั่งยึดทรัพย์สินรัฐบาลไทย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เพื่อถวายรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งทางด้านการทูตและทางด้านกฎหมาย กรณีศาลเยอรมันมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินรัฐบาลไทย ซึ่งนำไปสู่การอายัดเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนครมิวนิค ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกษิต ได้พบหารือกับนางคอร์นีเลีย พีเพอร์ รักษาการรมว.ต่างประเทศเยอรมัน และนายแวร์เนอร์ โฮเยอร์ รมช.ต่างประเทศเยอรมัน ที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งนายกษิต ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งและย้ำถึงความละเอียดอ่อนของการดำเนินการของฝ่าย เยอรมันในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่มีการอายัดเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ ไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐบาลไทย จึงจำเป็นที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องร่วมกันหาทางแก้ไขโดยทันที โดยพิจารณาถึงประเด็นความสำคัญทางการเมืองและกฎหมายควบคู่กัน ซึ่งทางฝ่ายเยอรมันรับทราบข้อห่วงกังวลของไทยและเห็นพ้องว่าไม่ควรให้เรื่อง ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีของ 2 ประเทศ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจที่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้ระคายเคืองเบื้อง พระยุคลบาท

ต่อมา นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึงความคืบหน้ากรณีศาลเยอรมันสั่งอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของไทย ว่า ล่าสุดเช้าวันนี้ (18 ก.ค.) คณะฝ่ายไทยได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามที่ศาลเยอรมันต้องการให้แล้ว ส่วนศาลจะมีคำวินิฉัย หรือนัดวันพิจารณาใหม่นั้น ขณะนี้รอความชัดเจนอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสร็จจากภารกิจจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว ตนจะเดินทางไปนครมิวนิก ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เพื่อติดตามเรื่องทันที นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึงนางแองเกลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีแล้ว หลังจากที่ตนได้ติดต่อในหลายระดับในช่วงที่ผ่านมา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311060887&grpid=00&catid=&subcatid=

จัดอันดับความเข้มแข็งทางการทหาร กองทัพไทยขยับอันดับ 19 โลก 8 เอเชีย "สหรัฐ"รั้งที่ 1

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:32:35 น.

matichon





เว็บ ไซต์ GlobalFirepower.com จัดอันดับความเข้มแข็งทางการทหารของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในปี 2554 โดยคำนวณจาก 45 ปัจจัย ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ โดยไม่นับรวมความสามารถในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่เลือกเปรียบเทียบเฉพาะความพร้อมและความสามารถในการรบเมื่อต้องทำสงคราม ตามแบบทั้งภาคพื้นดิน ในทะเลและในอากาศ นอกจากนี้ยังพิจารณาจากความสามารถการส่งกำลังบำรุง ปัจจัยทางการเงินในการทำสงคราม ซึ่งตัวเลขเหล่านี้อาศัยข้อมูลจริงและการประเมินตามหลักสถิติ พบว่า กองทัพไทยอยู่อันดับ 19 สูงขึ้นกว่าปีก่อนซึ่งอยู่อันดับ 28 ของโลก และครองอันดับ 8 ของเอเชียโดยเป็นรองจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิหร่าน ไต้หวัน และอินโดนีเซีย





เว็บไซด์ แห่งนี้อ้างตัวเลขจากห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันและสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ ระบุว่า ในปีนี้ ไทยมีงบประมาณกลาโหม 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (156,000 ล้านบาท) และเมื่อแยกเป็นรายกองทัพ พบว่า ไทยมีกำลังทหารที่พร้อมรบ 305,860 นาย และกำลังสำรองที่พร้อมรบ 245,000 นาย โดยกองทัพบกมีรถถัง 542 คัน ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ 1,005 คัน ปืนใหญ่ชนิดลากจูง 741 กระบอก ปืนใหญ่อัตตาจร 26 กระบอก ระบบจรวดหลายลำกล้อง 60 ชุด ปืนค. 1,200 กระบอก อาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง 818 ชุด อาวุธต่อสู้อากาศยาน 378 หน่วย และยานยนต์ส่งกำลังบำรุง 4,600 คัน



กองทัพอากาศ ไทยมีเครื่องบินแบบต่าง ๆ 913 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 443 ลำ และ เครื่องบินบริการ 105 ลำ ขณะที่ราชนาวีไทย มีเรือทั้งสิ้น 164 ลำ แยกเป็นเรือบรรทุกอากาศยาน 1 ลำ เรือฟริเกต 6 ลำ เรือยามฝั่งและเรือตรวจการณ์ 109 ลำ เรือทำสงครามทุ่นระเบิด 7 ลำ และเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก 9 ลำ นอกจากนี้ไทยมีกองเรือพาณิชย์นาวี ประกอบด้วยเรือทั้งสิ้น 382 ลำ และท่าเรือสำคัญ 5 แห่ง



สำหรับ กองทัพอันดับ 1 ของโลกในปีนี้ ยังคงเป็นสหรัฐ ส่วนอันดับรองลงมาคือ รัสเซีย จีน อินเดีย และอังกฤษ ชาติในเอเชียที่ติดอยู่ 10 อันดับแรกของโลกมีถึง 4 ประเทศ คือ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ส่วนในอาเซียน อินโดนีเซีย และไทย อยู่อันดับ 18 และ 19 ฟิลิปปินส์อยู่อันดับ 23 และมาเลเซียอยู่อันดับ 27

http://www.youtube.com/watch?v=F0VrLTvw0AQ&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=z7DyfWN4dw0&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=ESy9kMV0VXs&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=ovc0e_ACyjs&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=v7C-snjp_o4&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=v4U_TS0iFYc&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=woYSNBQh0_Y&feature=related


ກາຊິໂນສາມຫລຽມທອງຄຳ ບ້ານ ຕົນເຜິ້ງ ເມືອງ ຫວຍຊາຍ ແຂວງບໍ່ແກ່ວ ທິ່ບັກຈູມມາລີ ແລະ ບຸນຍັງ ມອບໃຫ້ ເປັນກັມມະສິດ ນາຍທຶນເຈັກ 99 ປິ
ທິ່ເຮົາ ສູນເສັຍເອກກະຣາຊ ທາງພາສາ(ພາສາ ປທ ທິ່ມິອະທິປະໄຕ ຄິພາສາລາວ ຖຶກລົບລ້າງດ້ວຍພາສາເຈັກ ມັງດາແຣງ)
ທາງການເງິນ(ເງີນກິນ ໃນເຂດພີເສດ30 ກິໂລແມດມົນທົນນິ້ ຫ້າມໃຊ້ ນອກຈາກ ເງິນຍວນເຈັກ ເງິນບາດສຍາມແລະ ໂດລາ ອມຣກ ເປັນທິ່ຍອມລັບການແລກປ່ຽນຊິ້ຂາຍກັນ) ທາງພາສິອາກອນ(ລາຍໄດ້ບໍ່ໄດ່ເຂົ້າສູ່ງົປມານແຫ່ງຊາດແຕ່ຢ່າງໃດ)ແລະ ທາງຄວາມຫັ້ມນຄົງຂອງຊາດ(ທະຫານລາວ ຕຳຣວດພັກ ຖຶກຜັກດັ້ນໃຫ້ອອກຈາກພຶ້ນຖີ່ນນິ້ ທັງໆ ທິ່ຜືນແຜ່ນດິນນິ້ຕ້ອງແມ່ນຫ້ນາທິ່ຂອງ2ກູ່ມນິ້ເປັນຜູ້ພິພັກຮັກສາປົກປ້ອງ )


http://www.youtube.com/watch?v=BAPlZJ8-kSM&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=O1sYmbi2g_s&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=gezOed81k_w&feature=related

Amerilao 16/07/11 11:18 PM (3 ວັນ) ຈາກ: USA ບ້ານຂີ້ທູດຫຼັກ 19
ເຖີງ: laoskham



ສບດ ທ່ານ Laokham, ທ່ານ ເດືອນສາມຄ້ອຍ ບັນດາ ສະມາຊິກສະພາແຫ່ງຊາດຂອງ ສປປລ ແລະ ພີ່ນ້ອງທ່ານຜູ້ອ່ານ ທັງໃນ ແລະ ນອກ ປທ ທີ່ຮັກແພງ.

ເຮົາຮຽນຫັຍງແນ່ ຈາກບົດຮຽນ

ຂອງການສະຖາປະນາ ສປປລ ໃນປີ 1975.


Frontal Attack.



ຄອບໃຈທ່ານ Laokham ແລະ ທ່ານເດືອນສາມຄ້ອຍ ທີ່ໃດ້ມາ
ອອກຄວາມຄິດຄວາມເຫັນ ທໍາໃຫ້ ບົດກະທູ້ນີ້ ຖືກຖາກຖາງກ້ວາງຂວາງ ແຈ້ງອອກໄປຕື່ມອີກ.



(ກ).ຍ້ອນບັນດາອາດີດ ຜູ້ນໍາ ຂອງ ສປປລ ເສືອ່ຢ່າງ ມົດ-ຂີ້ ວ່າ ລັດທິ ມາກສ໌-ເລນິນ ຈະເປັນ ຢາວີເສດ (miracle drug) ເປັນ ຢາໄໝ່ (New effective drug)ມີສັບພະຄຸນ ສາມາດປິ່ນປົວ Cancer ໃນ Lao body of politics ໃດ້ຫລາຍໆ ປະການ,


(ຂ).ຍ້ອນບັນດາ ອາດດີ ຜູ້ນໍາເຮົາ ເສືອວ່າ ຜ້າໝາກກະ ລອກ ຕານີ້ ຈະຕ້ອງເປັນເຈັດເຕັ້ມບໍ່ມີຜິດ
(ສີ່-ສອງ-ອຽວ ແທ້ໆ) ຈັ່ງໃດ້ເອົາ ລັດທິ ມາພະນັນ ກັບ ຄວາມແຕກຫັກຂອງຊາດ ແກ້ສົ້ງແກ້
ກາງເກງໃນ ປົດແວ່ນຕາ ແຫວນ ຕຸ້ມຫູ ລົງໄສ່ເຈັດແຕ້ມ ຮູດຽວ ແຖມ ແທງພາດ ສີ່-ສອງ-ອຽວ
ຄາວ-ນີ້-ມຶງ-ເສັດ-ໃຫ້-ກູ-ແທ້ໆ,

(ຄ).ຍ້ອນ ລັດຖະດໍາລັດຣະດັບຊາດໃດ້ຖືກດໍາເນີນໄປ ຕາມແນວທາງທິສດີຂອງການ ປຕວ ບາງຄັ້ງ ພວກ
ເຮົາແມ່ນໃດ້ເຮັດຕວງໄປແບບ ສີໂບ ສີເບ ຂາດຫັລກວິຊາການ ຂາດ ທີ່ປຶກສາ ທີ່ມີຄວາມຮູ້ພື້ນຖານ
ຜົນທີ່ຕາມມາ ຄື ປທຊ ຈະຕ້ອງດິ່ງດັບລົງສູ່ຄວາມຫາຍຍະນະ ປຊຊລ ແມ່ນໃດ້ຮັບຄວາມລໍາບາກ,

(ງ). ຍ້ອນຜູ້ນໍາເຮົາໃນສໄໝນັ້ນຄິດ ລະເມີເຝີ້ຝັນຫາແຕ່ອໍານາດ ສື່ສຽງເລີຍ ເຜີ ເກີດລືມຄວາມເປັນເຊື້ອຊາດ
ເຜົ່າພັນ ລືມຮາກຖານຂອງຄວາມເປັນຊາດ ຈັ່ງໃດ້ເກີດຫົລງໄຫລ ຟັງຄວາມຕ່າງຊາດຈົນສຸດມົດສຸດໃຈ
ຂຶ້ນແຖວ ລົງແຖວ ຈໍ້າເມັດ ເຮັດຕາມ ທິສດີ ມາກສ໌-ເລນິນບອກກ່າວໄວ້,

(ຈ). ຍ້ອນບັນດາອາດີດ ຜູ້ນໍາເຮົາ ຄິດວ່າ ລັດທິ ແມ່ນມີຄວາມສໍາຄັນ ມີອະນຸພາບ ສັກສິດ ກ່ອນ
ລາວ-ໂຮມ-ລາວ ຈັ່ງໃດ້ຕັດສິນໃຈເລືອກລັດທິ ເສັ້ນທາງນີ້, ແທນທີ່ ຈະເປັນ ລາວ-ໂຮມ-ລາວ,



ພວກເຮົາ ປຊຊລ ແລະ ປທຊ ຈັ່ງມີ

ຊາຕາກັມລົງເອີ່ຍໃນແບບນີ້.

ເກືອບສອງຮ້ອຍປີກ່ອນ ປທຊ ຂອງພວກເຮົາແມ່ນຢູ່ໄຕ້ອິດທິພົນ
ແລະ ການຄຸ້ມຄອງຂອງສະຫຍາມ. ເກືອຍສອງຮ້ອຍປີ ໄຮ່ຫັລງ ພວກເຮົາ ກໍບໍ່ຕ່າງຫັຍງຈາກ ລາວໃນຍຸກ
ລ້ານຊ້າງໃນສໄໝນັ້ນ. ພຽງແຕ່ ສໄໝນີ້ ພວກເຮົາ ແມ່ນຢູ່ໄຕ້ອິດທິພົນ ການອາລັກຂາຂອງ ວຽດນາມ.
(ປ່ຽນແປງ ຄົນລະນາຍ ຢູ່ໃນຄົນລະສໄໝ).

ພີ່້ນອງເພືອ່ນຮ່ວມຊາດທີ່ຮັກແພງ. ຮາກຖານຂອງສັງຄົມນິຍົມໃນ
ສະຫະຣັດອະເມຣິກາ ນັບວ່າ ເລີກເຊີ່ງ ເຂົ້າ ກະດູກດໍາ ຝັງໃນ DNA ຂອງຊາດເຂົາ ຢາກທີ່ ຈະ ລົບລ້າງ ຫຼື ຂ້າກົດໝາຍນີ້. ປທ ທີ່ເຄີຍ ປະກາດຕົນເອງວ່າ ເປັນ ປທ ສັງຄົມນິຍົມ ເຊັ່ນ ສະຫະພາບ ໂຊວຽດ ແລະ ສາທາຣະ ນະຣັດ ປຊຊ ຈ ຫາກກໍ່ Introduce ກົດໝາຍ Progressive income tax ເຂົ້າໃນສະພາແຫ່ງຊາດ.

ສິ່ງທີ່ຫ້ນາແປກໃຈຄື:ປທ ສຫຣອມຣກ ແມ່ນວ່າເຂົາມີ ລຖບ ໃຫ່ຍ (Big government or Socialist system of governance ) ຈົນ ລຖບ ເຂົາ ຂາດງົບປະມານແຫ່ງຊາດຢ່າງຍ້ອຍຍັບ ແຕ່ເຂົາບໍ່ໃດ້:

(ກ).ເອົາຄໍາຂັວນປ້າຍແດງ ມາຕິດຕາມຖະນົນຫົນທາງ ຕາມເຄຫາຫ້ອງການຂອງ ລຖບ ຕ່າງໆ,



(ຂ).ເຂົາບໍ່ໃດ້ເອົາຮູບມາກສ໌-ເລນິນ ໄປຕິດໄວ້ຕາມສະພາຕໍ່າ ແລະ ສະພາສູງ ຂອງຊາດເຂົາ,



(ຄ).ປທ ສຫຣອມຣກ ແທນທີ່ວ່າ ເຂົາ ຈະ ປຕວ ຊຶ້ງເປັນຄໍາສັບຮຸນແຮງ ເຂົາ ປະຕິຮູບກົດໝາຍ
ກັນຢູ່ຄູ່ມື້ ໝາຍຄວາມວ່າ ປຕວ ກັນຢູ່ຄູ່ມື້ ພຽງແຕ່ ການປ່ຽນແປງຂອງຊາດເຂົາ ແມ່ນເຂົາ
ປະຕິຮູບ ດັດແປງ ກົດໝາຍ ໃຫ້ສອດຄ່ອງເຂົ້າກັບສະພາບຕົວຈິງຂອງສັງຄົມປັຈຸບັນຂອງຊາດເຂົາ.
ບໍ່ເຫັນຈໍາເປັນວ່າ ເຂົາຕ້ອງຢ່າງນໍ້າກົ້ນ Karl Marx ທີ່ຂຽນໄວ້ຕັ້ງ ຮ້ອຍກົ່ວາປີ ຜ່ານມາແລ້ວ.


ທ້າຍສຸດ ຫັລງຈາກິນຢາສັ່ງ ຈາກ ລາວຮັກລາວ ນີ້ແລ້ວ ພວກໄຂ້ Marxist-Leninist ຫຼື ຢູງຂາລາຍຂອງ ສປປລ ອາດ ມີອາການ ດີຂຶ້ນແນ່.ໃຫ້ຄ່ອຍໆ ດື່ມຢາ ພັກຜ່ອນໃຫ້ຫລາຍໆ ທໍາຕາມໝໍສັ່ງ ອາການ ຈະດີຂິຶ້ນ. ເປີດປ່ອງຢ້ຽມອອກ ເຫັນ ແສງສະຫວ່າງ ຫັນໃຈ ລົ່ງ ຟັງສຽງນົກຮ້ອງ ຢ່າງອ້ອຍອີ່ນ ມີອິສຣະພ່າບ. ນີ້ຄື ໂລກຊີວິດຈິງຂອງມະນຸສ.

ຢ່າກັກຂັງຕົນເອງໃນ ຖໍ້າຂີ້ ຂອງ ໄກສອນ ແລະ ສຸພານຸວງົສ໌.

ຮັກແພງ, ນົກສາລິກາໄກຮັງ.....ລາວຮາກລາວ

ທ່ານສີດດົງໂດກ,


ເນື້ອໃນ ແລະສຽງເພງຂອງທ່ານມ່ວນຈຸໃຈຫລາຍ ກະຣຸນາສືບຕໍ່ໄປເລື້ອຍໆ ເປັນພະເອກ
ມັນກໍຕ້ອງມີໂຈນເປັນຄູ່ກັນໄປ ບໍ່ສະນັ້ນການສະແດງກໍບໍ່ເປັນທີ່ສົນໃຈຂອງຜູ້ເບິ່ງ ແລະຟັງ
ປັດໃຈ ແລະຫນ້າທີ່ມັນຄວບກັນໄປ ແຕ່ຢ່າໃຫ້ມັນໂລດໂຜນ ຄືກັບຜູ້ນໍາພັກ-ລັດ ລາວ-ແກວ
ດັ່ງທີ່ເຫັນກັນຢູ່ນີ້ ປົກຄອງປະເທດ 36ປີ ມີເງິນຕັ້ງ 800-900 ລ້ານໂດລາສ ຕ່າງປະເທດ ປະເທດ
ເສຮີ ມີກົດຫມາຍ ເງິນປີນາຍຍົກຣັຖມົນຕຣີ ບໍ່ເກີນ 2ແສນໂດລາສ ຢາກຖາມເພິ່ນວ່າເງິນປີເພິ່ນຫລາຍປານໃດ
ຄືມາຫລາຍແທ້ ຊຶ່ງກົງກັນຂ້າມກັບປະຊາຊົນຫາເຊົ້າກິນແລງ ປາກກັດຕີນຖີບ ສົມມຸດວ່າໃຫ້ເງິນ
ປີໆລະ5ລ້ານໂດລາສ ກໍຍັງບໍ່ເຖິງລະດັບຂອງຄະນະຂອງ ພັກ-ລັດແຕ່ລະຄົນທີ່ມີຢູ່ ໂອຍ!.....ອານິຈາ...
ພວກໂຈນ ຂ້າເຈົ້າ ເອົາຂອງ ຂີ້ຂ້ອຍແກວ ທໍາລາຍຊາດລາວ ພວກເປດ!!!!!!................................................


ນັບຖືທຸກທ່ານທີ່ຫວັງດີຕໍ່ຊາດ ແລະປະຊາຊົນລາວ

ສອງວິຣະຊົນລາວ
ຄົນນື່ງຖືກລາກອອກ
ແຕ່ຄົນນື່ງຊ້ຳກ້າຫານລຸກຂື້ນຕົບຫ້ນາຊົກຕ່ອຍຢ່າງຕະລູມບອນລູກຊາຍບັກຄາຕກອນໂລກ

ຄັກ
ປິ 1985 ການເລີ້ມຕົ້ນຂອງການລົ້ມລະລາຍລະບອບຜິຫ່າ ຄມນ ຜດກ ຢ່າງໃດ
ປິ 2011 ຄມນລາວແດງກະຕົກຢູ່ໃນທ່າຈັ້ງ ຢ່າງນັ້ນລະ
..............................
..............................


ເສຣິຊົນລາວທັງໂລກພາກັນຂຽນປະວັດສ­າດລາວໄຫ່ມໄດ້ແລ້ວ

ເພາະໃນຍຸກ ຄມນລາວຄອງເມືອງບໍ່ເຫັນ ນຍ ຄົນໄດຖຶກໄລ່ອອກຈາກຫ້ນາທິ່ຈັກເ­ທຶ່ອຍັງບໍ່ແລ້ວ ຍັງບໍ່ເຫັນນັກການເມືອງໂຈນລາວແດງ­ຫມາຮັບໃຊ້ຕ່າງຊາດ ພວກຂາຍຊາດຂາຍແຜ່ນດິນ(ສ້າງເຂດເສຖກິດ­ພີເສດສູນເສັຍເອກກະຣາຊທາງພາສາ ການເງິນຄວາມຫັ້ນຄົງແລະພາສິອາກອນ­)ຄົນໃດ ຈະສາມາດລຸກຂື້ນເອົາກະປັ້ນທູບໂຕະ­ໄສ່ຜູ້ເປັນນາຍຄຶແກວຫັວຂອດນິ້ໄດ້ ດັ່ງ ນຍ ລູກສາຣະວັນຈາກວັດຫລວງປາກເຊຄົນນິ­້ ເມື່ອຣມຕແກວ2ຄົນມາປະຊູມທິ່ກຳແພງ­ນະຄອນ ວຈ ເພື່ອບັງຄັບໃຫ້ ບັວສອນຍົກເລິກການປະມູນກໍ່ສ້າງເຂ­ື່ອນໄຊຍະບຸຣິກັບນັກລົງທຶນໄທ ແຕ່ເຂົາປະຕິເສດບອກວ່າ
ສປປລ ສປປລ ສປປລ
ເປັນປທ ເອກກະຣາຊບໍ່ຈຳເປັນຈະຕ້ອງປະຕິບັດໄປຕາມຄຳສັ່ງແກວຂອງສຸ
ເປັນປທ ເອກກະຣາຊບໍ່ຈຳເປັນຈະຕ້ອງປະຕິບັດໄປຕາມຄຳສັ່ງແກວຂອງສຸ
ເປັນປທ ເອກກະຣາຊບໍ່ຈຳເປັນຈະຕ້ອງປະຕິບັດໄປຕາມຄຳສັ່ງແກວຂອງສຸ
ເປັນປທ ເອກກະຣາຊບໍ່ຈຳເປັນຈະຕ້ອງປະຕິບັດໄປຕາມຄຳສັ່ງແກວຂອງສຸ


ບັກແກວຫັວຂອດ ລຸກຂື້ນນາບຂູ່ບັວສອນບອກແບບຫ້ນາດ­້ານວ່າ ສັນຍາລາວແກວເມື່ອ65 ປິກ່ອນ(ຈັກແມ່ນສັນຍາໂຄດແມ່ມັນຫຍ­­ັງ)ແມ່ນບອກວ່າທຸກໆໂຄງການໄຫ່ຍໆຕ້ອງໄດ້ຮັບອະນຸຍ­າດຈາກ ປຊຊໂຄດແກວມັນກ່ອນ

ບັວສອນເຫລຶອໄຈລຸກຂື້ນທັບໂຕະໄສ່ບ­ໍ່ເວົ້າຫຍັງພໍ­ຄວາມພ້ອມທັງຫອບກະ­ເປົ້າອອກຫ້ອງ ແປວ່າອານາຄົດການເມືອງທ່ານຈົບລົງ­­ມຶ້ນັ້ນຫ້ນາທິ່Politburo ສສ ວຈຝົ້ງອອກເລິຍ

ນິ້ຄືຄວາມຈິງຕໍ່ອິດຕິພົນອັນຍິ່ງໄຫ່­­ຍຂອງແກວຜູ້ເປັນນາຍເຈົ້າພໍ່ອານານິຄົມທ້ອງຖິ້ນອາຊິຕັວໄຫ່

ຍ້ອນສັນຍາພິເສດລາວແກວປິ77ນັ້ນ­ເ­ອງ ທິ່ບັກມືມິເລຶອດແກວໄກສອນໄປຍອມເຊັນມອບຜຶນແຜ່ນແມ່ຂອງພວກ
ເຮົາໃຫ້ໂຄດແກວມັນຢ່າງຊິ້ນສະຕິເລິຍ
ສສ ຊາດນິຍົມທັງຫລາຍ
ເອິຍຍັງອິກປິ1 ສັນຍານິ້ຈະຊື້ນສຸດລົງ
ຈົ່ງຍົກເອົາບັນຫານິ້ຂື້ນມາພາກັນໂຕ້­­ຖຽງແລ້ວຍົກທັບຖິ້ມໄດ້ແລ້ວ ຕາມມາດຕຣາ 7ຂອງສັນຍາຮູຂິ້ນິ້

ກ່າຍຈາກ

www.radiochampamuonglao.free.fr
http://www.youtube.com/watch?v=nQHRDeR-hks&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=58xXqQROEYY

http://www.qdnd.vn/qdndsite/en-US/75/72/183/161/163/155228/Default.aspx


News
HUD invests in a large urban project in Laos
QĐND - Saturday, July 23, 2011, 21:10 (GMT+7)

Housing and Urban Development Group (HUD) has just signed an agreement with Viet Phuong Investment Group to invest in an urban area near That Luong Lake in Saysettha District, in the Lao Capital City of Vientiane.

Earlier, the Vientiane Mayor had entrusted the Viet Phuong Company with the construction of a town on an area of 100 ha in the City.

HUD President Nguyen Hiep said that under the Group’s strategy for 2015, it will boost its investment in property, housing and urban projects not only at home but also in other regional countries, especially neighbouring ones, which share common cultural characteristics and have friendly ties with Vietnam.

At this point, several of its member companies are in some regional countries like Laos, Cambodia and Myanmar to survey the markets and seek investment opportunities, said the Group’s President.

Railway ministry in 2 -trillion-yuan debt
China ' s Ministry of Railways ( MOR ) was 1.98 trillion yuan ($294.87 billion ) in debt at the end of the first quarter of 2011, causing its asset-liability ratio to reach 58.24 percent , CNTV reported Tuesday .
http://www.chinadaily.com.cn/bizchina/2011-07/19/content_12934824.htm

http://shows.voicetv.co.th/intelligence/14693.html


“หมู่บ้านเสื้อแดง” ภัยความมั่นคงหรือสัญลักษณ์ประชาธิปไตย ?


การถือกำเนิดของหมู่บ้านเสื้อแดง ในหลายจังหวัดโดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคอีสาน มีการขึ้นป้าย พร้อมติดธงสีแดงทั้งหมู่บ้าน รวมถึงการตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเสื้อแดง ซ้อนทับกับผู้นำตาม กฎหมายปกครองท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทย ทำให้ฝ่ายรัฐมองว่าเป็นการท้าทายต่ออำนาจรัฐส่วนกลางเป็นอย่างยิ่ง


แกนนำเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี สร้างหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งที่ 3 ของจังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพลังประชาธิปไตยในภาคประชาชนและจุดยืนทางการเมือง

แกนนำหมู่บ้านเสื้อแดง มองว่า การจัดตั้งหมู่บ้านบนที่ดินส่วนบุคคลเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนสามารถทำได้ ส่วนงบประมาณในการบริหารท้องถิ่นนั้น ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาโดยตรง ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับเงินพัฒนาพื้นที่เช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่น และยืนยันว่าการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มคอมมิวนิสต์ ชาวบ้านจึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารหมู่บ้านเพื่อดูแลความเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถเข้ามาตรวจสอบได้

แม้ว่าหมู่บ้านเสื้อแดง จะมีความสัมพันธ์ กับกลุ่ม นปช. และพรรคเพื่อไทย เพราะมีอุดมการณ์ประชาธิปไตยในแนวทางเดียวกัน แต่เมื่อพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาล หมู่บ้านเสื้อแดง ก็จะทำหน้าที่ในฐานะประชาชนที่จะติดตาม ตรวจสอบรัฐบาลเพื่อไทยต่อไป

ก่ายจาก

http://www.youtube.com/watch?v=e3H90VZ30bs

http://www.youtube.com/watch?v=58xXqQROEYY

http://www.youtube.com/watch?v=IOsCYVSatYA

http://www.youtube.com/watch?v=vZDJ0ajyvlQ&feature=re








คนลาวจากภาคอีสานนะครับ ดูคนภาคใต้เป็นตัวอย่าง อย่ายอมคนไทยที่ดูถูกข่มเห็งเป็­นคนชั้น2ทังๆที่เป็นคนส่วนไห่ยข­อง ปทภาษาลาวของคนก่วา42ล้านคนในผิ­นแผ่นนี้เป็นที่ไม่ยอมรับจากเจ้­าพ่ออานาณีคมท้องถี่นโจรเหี้ยสย­าม ต้องลุกขึ้นสู้ครับ แยกตัวไปอยู่กับปทลาวให้รู้­เริ­้องแล้วรู้รอดไปเลยว่า ปทลาวจะเหี้ยอย่างที่คนไทยห­ลาย­คนว่าหรือปล่าว
ตอนนี้ปทไทยมีปัญหาทั้งภาคใ­­ต้กับมาเลเซีย และภาคตะวันออกกับเขมร ถ้าจะมีปัญหาจะมีที่ภาคอีสานด้ว­­ย คงไม่เป็นไรหรอกครับ แยกตัวไปให้หมด คนไทยมันเก่ง เทพสุดแล้ว ดูถูกคนไปทั่ว

ສະບາຍດີ ທ່ານ ຂພຈ ຂໍນຳທ່ານຫລາຍໆ ຈົ່ງຢ່າສວຍໂອກາດ ແຊກຊ້ອນແນວຄິດ

ຕ້ານປະເທດເພື່ອນບ້ານມາ ດ່າຢູ່ໃນທີ່ນີ້...ຂໍໃຫ້ທ່ານເວົ້ແຕ່ບັນຫາລາວໂດຍສະເພາະ...ຢ່າໃຫ້

ມັນສັບສົນໄປຕື່ມອີກ !!ບັນຫາລາວກໍສັບສົນຢູ່ແລ້ວ..ຫວັ­ງວ່າທ່ານຄົງເຂົ້າໃຈ

-- Edited by buckhumnoy on Tuesday 26th of July 2011 07:52:28 PM

แต่รัฐสภาและการ เลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะป้องกันการฉ้อฉลในรูปแบบต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในระบอบรัฐสภา ซึ่งถึงอย่างไรฝ่ายบริหารก็ต้องคุมเสียงข้างมากได้เสมอ ปราศจากกลไกทางสังคมที่เข้มแข็งพอจะกำกับควบคุมรัฐสภา อย่างไรเสียก็ย่อมเกิด "เผด็จการทางรัฐสภา" ขึ้นจนได้

จะมาฟูมฟายกับ พฤติกรรมของนักการเมืองก็ไร้ประโยชน์ ซ้ำยังชวนให้ไปเพ้อฝันถึงระบอบเผด็จการรูปอื่นๆ ด้วย ดังคำพูดของท่านผู้ใหญ่ที่ผมนับถือท่านหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า

"ระบบ รัฐสภาในประเทศไทยไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่เป็นเผด็จการ เพราะในระบบรัฐสภาที่เป็นประชาธิปไตยจริง ส.ส.ต้องเป็นอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับกลุ่มอำนาจใดๆ แต่เนื่องจากรัฐสภาไทยตกอยู่ใต้การบัญชาของบุคคลคนหนึ่ง (ท่านคงหมายถึงคุณทักษิณ ชินวัตร) ระบบรัฐสภาจึงไม่ใช่ทางแก้ปัญหา" (แปลจากภาษาอังกฤษ อาจไม่ตรงกับคำพูดของท่านทุกคำ)

แต่มี ส.ส.ที่ไหนในโลกนอกจินตนาการเชิงอุดมคติล่ะครับ ที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง อย่างน้อยเขาก็ต้องจำนนต่ออคติของผู้เลือกตั้งเขามา วุฒิสมาชิกหัวก้าวหน้าบางคนของสภาสูงสหรัฐ ไม่เคยลงคะแนนเสียงให้แก่กฎหมายใดที่มุ่งจะให้สิทธิเสมอภาคแก่คนดำเลย เหตุผลก็เพราะเขาเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐทางใต้ที่รังเกียจผิวอย่างรุนแรง แต่เมื่อกระแสเคลื่อนไหวทางสังคมอเมริกัน สนับสนุนความเสมอภาคของคนสีผิว นักการเมืองเหล่านี้ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง หรือต้องเปลี่ยนแนวทางทางการเมืองในเรื่องสีผิวไป

การที่มี บุคคลบางคนสามารถบัญชา ส.ส.ได้เกือบทั้งสภา จึงไม่ใช่ความบกพร่องของระบบรัฐสภา แต่เป็นความบกพร่องที่ใช้ระบบรัฐสภาในสังคมที่ภาคประชาชนไม่เข้มแข็งพอจะ กำกับควบคุมรัฐสภาได้ มีแต่การเลือกตั้ง 4 ปีครั้งเพียงอย่างเดียวเป็นเครื่องมือ

"เผด็จการรัฐสภา" จึงเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ แต่ไม่ใช่ด้วยการรัฐประหาร รอนอำนาจประชาชนลงด้วยการมีวุฒิสภา (หรือสภาผู้แทนฯ) ที่มาจากการแต่งตั้ง หรือใช้ฝูงชนยึดทำเนียบรัฐบาล แต่อาจป้องกันได้ด้วยการสร้างเงื่อนไขทางกฎหมาย ทางการบริหาร ทางเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดองค์กรเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองได้โดยสะดวก

ใน ขณะเดียวกันก็อาจออกแบบรัฐธรรมนูญให้รองรับการเมืองภาคสังคม เช่น ลดอำนาจควบคุม ส.ส.ของพรรคการเมืองลง เปิดให้มี ส.ส.ที่ไม่สังกัดพรรค ให้สิทธิการ "เรียกคืน" ส.ส.แก่ประชาชนภายใต้เงื่อนไขอันหนึ่ง มีการลงประชามติในเรื่องแนวนโยบายสำคัญๆ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งทั่วไป การบริหารในรูปกรรมการต้องมีภาคสังคมร่วมเป็นกรรมการในสัดส่วนที่มีความหมาย

รัฐสภา ก็ไม่อาจลอยอยู่โดดเดี่ยวได้ แต่ต้องคอยฟังเสียงและการเคลื่อนไหวของภาคสังคม (ทุกภาคส่วน) อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งอำนาจของรัฐสภาเองก็ถูกจำกัดลงด้วยเงื่อนไขต่างๆ ดังกล่าวแล้ว "เผด็จการทางรัฐสภา" จึงเกิดขึ้นได้ยาก แม้ว่าอาจมีนักการเมืองบางคนสั่งสมบารมีมาก ก็ไม่สามารถครอบงำรัฐสภาได้เด็ดขาดนัก

น่าเสียดายที่ความเข้าใจอัน ตื้นเขินเกี่ยวกับ "เผด็จการทางรัฐสภา" ในเมืองไทย แพร่หลายมากเสียจนกระทั่ง แทนที่จะช่วยกันคิดหาทางป้องกัน กลับเป็นการชวนกันหันไปหาเผด็จการรูปแบบอื่น

ยิ่งกว่านี้ ในสองปีที่ผ่านมายังมีความพยายามที่จะทำให้การเมืองของภาคสังคมอ่อนแอลง มีการปิดเว็บไซต์และสื่อ ซึ่งเป็นอริกับรัฐบาลหลายพันแห่ง มีการจับกุมคุมขังผู้คนจำนวนมากด้วยข้อกล่าวหาที่คลุมเครือต่างๆ เช่น มาตรา 112 ในกฎหมายอาญา (คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) และกฎหมายคอมพิวเตอร์ ซ้ำยังมีความพยายามแก้กฎหมายหรือออกกฎหมายใหม่ที่ยิ่งทำลายพลังของการเมือง ภาคสังคมลง เช่น พยายามแก้กฎหมายคอมพิวเตอร์ซึ่งเลวร้ายอยู่แล้วให้เลวร้ายยิ่งขึ้น ออกกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุม ซึ่งคือการยึดพื้นที่สาธารณะไปจากประชาชนนั่นเอง ให้อำนาจ กกต.ซึ่งมาจากการแต่งตั้งไว้อย่างไร้ขีดจำกัด จนกระทั่งการตัดสินใจของประชาชนไม่มีน้ำหนักเหลืออยู่อีกเลย

เมื่อ ดูแนวโน้มทั้งหมดเหล่านี้แล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่า "เผด็จการรัฐสภา" ย่อมจะยังเป็นลักษณะเด่นในการเมืองไทยต่อไป ทำให้การต่อสู้ช่วงชิงทางการเมืองระหว่างฝ่ายต่างๆ โน้มเอียงไปทางความรุนแรง เพราะฝ่ายที่ได้ชัยชนะจะได้หมด ในขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งไร้อำนาจต่อรอง ย่อมหันไปพึ่งอำนาจนอกระบบ ทำความเสื่อมเสียแก่อำนาจนอกระบบทั้งหลาย ที่ไม่ต้องการเข้ามาแทรกแซงการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

Dr Nithi Iangsriwong from Chiengmai night university Lanna lao

มันไม่กล้าไปเฉียดชายแดนพม่าอีกหรอก เก่งแต่เห่าอยู่แถวๆข้างบ้านเขมร
มันไม่กล้าไปเฉียดชายแดนพม่าอีกหรอก เก่งแต่เห่าอยู่แถวๆข้างบ้านเขมร
มันไม่กล้าไปเฉียดชายแดนพม่าอีกหรอก เก่งแต่เห่าอยู่แถวๆข้างบ้านเขมร
มันไม่กล้าไปเฉียดชายแดนพม่าอีกหรอก เก่งแต่เห่าอยู่แถวๆข้างบ้านเขมร
มันไม่กล้าไปเฉียดชายแดนพม่าอีกหรอก เก่งแต่เห่าอยู่แถวๆข้างบ้านเขมร
มันไม่กล้าไปเฉียดชายแดนพม่าอีกหรอก เก่งแต่เห่าอยู่แถวๆข้างบ้านเขมร

ຂໍມອບ ຄລີບ ຂ້າງລູ່ມນິ້ ໃຫ້ ຄວາຍພັກທັງຫລາຍ
ພວກສຸເບີ່ງແລ້ວກະນອນດົມຫອຍເມັຍພວກມືງມ່ວນຊື່ນມີຊີວິດຊິວາ ວະ

http://www.youtube.com/watch?v=YhYo9ZZG8BY&NR=1

Les entreprises, personnes, les idées
Dans La Jungle Bungle
Ron Gluckman, 27/07/11, 18:00 HAE
Forbes Asia Magazine datée le 8 août 2011
L'idée a été une colonie économique chinoise dans le désert du Laos, et qui était d'accord avec le Laos. Puis les joueurs, des prostituées et des gangsters pris le relais, et ce n'était pas d'accord avec la Chine.

Les bâtiments roses étaient destinés à servir des hôtels et des bureaux à Boten.Commerces et logements en face ont été rasés pour faire place à un nouveau marché.

Partout en Asie, une fois en arrière-régions ont bondi dans le boom qui a sorti des millions de la pauvreté - les monuments du miracle économique asiatique. Mais il ya eu grands projets qui allaient spectaculairement faux. Peu de comparer avec Golden Boten City, un projet qui a promis une ruche d'activité économique dans le nord du Laos par la frontière chinoise, mais aujourd'hui, assis solitaire et désolée.

Route 3 dans les régions montagneuses du Laos coupes à travers les plantations de caoutchouc et des forêts, un vaste tapis de verdure interrompu seulement par de minuscules villages - des groupes de cabanes sur pilotis et les populations tribales de brillants vêtements bleu, rouge et noir. Puis, soudain, il ya une compensation - et la vue surréaliste d'une douzaine de bâtiments énormes éruption du plateau dans des cloques nuances de rose, orange et jaune.


A des milliers de pointe Boten de personnes chaque jour coulé à travers la frontière de Chine province du Yunnan, sans précédent, grâce à l'accès sans visa. Comme les salles de jeux ont proliféré, des rangées de boutiques germé - un marché délabrées servant de Sin City. Une douzaine de magasins de lingerie répondait à des bataillons de prostituées chinoises, avec les meilleurs choix de talons aiguilles au Laos. Pharmacies stocké le sexe des potions aux côtés de racks de X-rated DVD et les conteneurs de la bile d'ours noir frais d'une usine de colline et utilisée en médecine traditionnelle chinoise. A côté de l'usine était une salle de Massive Entertainment roses qui se vantait montre travesti. Les ladyboys originaire de Thaïlande, mais tout le reste est venu de Chine: la bière, la police et pratiquement tous les concessionnaires, même la monnaie qui a rendu tout cela possible. Hôtel signes étaient en chinois, et les horloges Boten n'a pas courir au rythme paisible du Laos, mais ont été mis une heure d'avance à l'époque, la Chine. Boten a été complètement une colonie chinoise.
Ceci est d'or Boten City, un "paradis pour la liberté et le développement», comme les brochures d'investissement a appelé. En 2003, un développeur a loué le site 21-squarekilometer du Laos depuis 99 ans, et des bâtiments a commencé à aller jusqu'à l'année prochaine. Le plan prévoyait une zone commerciale dans ce qui était prévu pour être un couloir de croissance clé, avec des liens routiers et ferroviaires du sud de la Chine vers les ports d'aussi loin que Bangkok et Singapour. Dessins illustrent un parcours de golf, une station de blocs et d'appartements en bordure des lacs et des lagunes pittoresques. Au lieu de cela, Boten est rapidement devenu un Gold Rush style Boomtown et, comme de nombreuses villes telles, réputé pour les bordels de jeu, le crime et animée.

Puis, aussi vite que des joueurs de la Chine fait de ce site distant dans le Macao de la jungle, le Golden Boten Ville fondu. Les histoires dans les médias chinois parlé otages détenus sur les dettes de jeux. Les habitants ont dit Forbes Asia du corps jetés dans la rivière. Chine coupé l'électricité et de services de télécommunications à l'enclave et a commencé visas exigeant. «Nous avons entendu les rapports des meurtres, des gens disparaissent," un fonctionnaire de Golden Boten Ltd Ville, le développeur, a déclaré à Forbes Asia lors d'une visite en mai. (Le promoteur a dit qu'il n'avait pas courir les casinos;. Qui a été fait par plusieurs opérateurs peu connus de l'étranger) "Nous ne contestons pas qu'il ya eu des problèmes ici, mais nous travaillons à les corriger."


Quelques jours plus tard les casinos dernière fermeture. Les magasins fermés par manque de clients, laissant derrière lui une offre énorme de talons aiguilles avec une photo géante de l'acteur américain George Clooney, regardant tristement à partir d'un luxe non ouvert Emporium, un des demi-douzaine de structures grandioses qui avaient été achevés, mais maintenant stand inutilisé. Les ours étaient encore emballés dans des cages, des traites de la bile, mais les ladyboys retourné en Thaïlande, et a été laissé Boten une ville fantôme.

L'homme derrière or Boten City est Huang Minxuan, 56 ans, qui avait été impliqué dans un casino au Myanmar avant qu'il ne soit fermé en une répression par Pékin sur le jeu juste-sur-la-frontière. (. Le jeu est interdit en Chine en dehors de Macao) Originaire de la province du Fujian, il a exploité une entreprise dans le Yunnan pendant quelques années avant d'enregistrer un grand nombre de sociétés à Hong Kong en 1997 et 1998 - toutes les longues dissous - et de gagner de Hong Kong de la citoyenneté , il est toujours le président honoraire de la Chambre de Commerce du Fujian dans le Yunnan.

Huang dit entre 200 millions et 300 millions ont été dépensés pour Boten, mais il ne dit pas d'où il vient ou combien d'c'était son argent. Médias chinois indiquent que il a servi comme directeur général d'une société de Hong Kong qui pompé 36 millions de dollars dans le projet quand il a commencé, mais aucune trace de l'entreprise peuvent être trouvés. Les investissements en second commandement, George Huang, 55 ans, une nationale taiwanaise qui a travaillé avec Huang Minxuan au casino du Myanmar, a déclaré petits venus de Thaïlande, à Singapour, au Royaume-Uni, la Russie et l'Ukraine. George n'a pas pu être contacté, il est soupçonné d'avoir quitté un emploi en Thaïlande après Boten effondré.

Casinos a commencé la germination au Myanmar le long de la frontière chinoise dans les années 1990, et éventuellement jusqu'à une centaine ont été exploitation.La plupart ont été modestes, parfois avec un hôtel, mais tous suivi la même formule: le déploiement des flottes de bateaux pour transporter les joueurs le long du Mékong, principalement de Chine, mais aussi en Thaïlande. Mais dans Boten, le Huang avait grandioses conceptions. Le Laos a été regardant le trafic touristique au Myanmar et a commencé vantant ses zones économiques spéciales pour les investisseurs. «J'ai été parlé dans l'idée», dit Huang Minxuan.

Reply Quote Printer Friendly


ສຶບທອດລະບອບທີ່ ປຊຊ ທັ່ງລົງກອງພອນໄປແລ້ວເມື່ອ20 ປິ ກ່ອນ
ສຶບທອດລະບອບທີ່ ປຊຊ ທັ່ງລົງກອງພອນໄປແລ້ວເມື່ອ20 ປິ ກ່ອນ

ແມ່ນເພື່ອຢາກຢູ່ສະບາຍປະຕິເສດຫລາຍພັກການເມືອງ ງົມຂິ້ຫູຂີ້ຕາກັບສັງຄົມ ຂື້ນແລ້ວບໍ່ຍອມລົງ ເພາະ
ລັດທີ ຜດກ ຢ່າງນິ້ ຍອມຮັບກັບການຄອງຣາຊສົມບັດແບບຣາຊວົງພັກ ລຽນຕິດ

ເມື່ອໂຄດແກວມັນອູ້ມສູ່ອຳນາດເຖື່ອນ ຕາມແບບສະບັບໂຈນ (ຣັຖທັມມະນູນ ສປປລ ຄອດ ອອກມາໄດ້ຫັລງ16 ປິ ລາວນອກອອກປາກອວກໆວ່າ ຖ້າ ໃນ ປິ 1991 ຊາວບ້ານບໍ່ຢຽບລັດທິ ບັກຫັວລ້ານ ຄາງເຍິ້ນ ລົງກອງພອນແຫ່ງຄວາມໂຫດຮ້າຍຊັ່ວຊ້າ ທິ່ ໂມສກູ) ມັນກະສະນຸກ ນັ່ງຂາຍຊາດຊາດຂາຍແຜ່ນ ກອບໂກຍ
ບໍ່ເຣັດບໍ່ສ້າງ ພຽງອ້າງເອົາຄວາມທຸກຄວາມຍາກ ຂອງ ຊາວລາວທັງ ປທ ມາ ແບຕໍ່ຫ້ນາສັງຄົມໂລກ ນານາ ປທ ກະ ຫອບເອົາພາສິ ບ້ານເຂົາເຂົ້າມາຊ່ວຍແລ້ວ

ນິ້ເລີຍເຮັດພວກຫມາພວກຄວາຍບັກເຫິ້ຍຂ້າຄອງເມືອງທັງຫລາຍ ຫ້ນາເລຶອດດ ກອບໂກຍເອົາຢ່າງບໍ່ມີວັນຊີ້ນສຸດ
ຍີ້ມແຍ້ມຢ່າງມິຄວາມສຸກ ບົນຄວາມທຸກຂອງລາວທັງຊາດ
ລູກສາວ ລູກຊາຍ ອາຍຸ 10 ປິ 12 ປິ ຂາຍມູນແມ່ ເຕັມຊ່ອງ ຮ້ານອາຫານ ຄາຣາໂອເກ ປທ ຂ້າງບ້ານ(ກ່ອນປິ
1975 ບໍ່ມີເດິລູງ ມືນຕາເບີ່ງແດ່) ພວກໂຈນ860 ນິ້ ບໍ່ມືນຕາເບີ່ງຕັ້ງຄຳຖາມເປັນຫຍັງຈື່ງເກິດສີ່ງນິ້ຈົນໄດ້
ໃນຂະນະທີ່ ສື່ ພັກ ທັງປວງທັງມວນ ປະກາດ ຄວາມເກັ່ງກ້າສາມາດກັບເສຖກິດທິ່ ເຕິບໂຕແບບບໍ່ມິວັນຊິ້ນ ທິ່2ຂອງໂລກ(7ຫາແປດ%) ແລ້ວຄວາມທຸກຍາກຂໍທານລ້າຫລັງຍັງຫ້ອຍຄໍຫອຍກັບຊາວລາວທັງ ປທ ແບບ ຫ້ນາເສົ້າໄຈທິ່ ສຸດ ໃນຂະນະທິ່ ສປຈ ຄອງຄວາມໂຕທີ່1ທາງນິ້ ກັບເປັນເສດຖິ ຕັວຈິງ ນານາ ປທ ສະຖາບັນເສຖສາດຮັບຮູ້ປົ້ງໆ ວ່າ ຜົນສຳເຮັດໄດ້ເກິດຂື້ນຢ່າງແທ້ຈິງ

ສ່ວນ ສປປລ
ຄວາມໂຕ ຖ້າຈື່ໄດ້ ມັນໂຕ ມາແຕ່ ປີ 75 ສຕວແລ້ວ ແຕ່ເປັນຫຍັງ ທາງການພັກຊີຊັວຈື່ງປະກາດເຖິງຄວາມແກ້ໄຂຄວາມທຸກຍາກບໍໄດ້ລະ
ເມື່ອໃດລະ ຈູມມາລີ ທອງສິງ ໄຊສົມພອນ ອານາຈັກໂຈນສຸ ຈະ ປອດ ຈາກສັງຄົມອານາຖາລະ ?? ປີ 2015 ບໍ?(ຂ່າວພັກປະກາດໄຫ່ມໆ ນິ້) ຫລື ປິ 2020ບໍ?( ບັກ ນຍ ຄົນ ທີ່ 4 ທ້ອງໂຊ່ນ ຈາກ ເມືອງອຸບົນໆ ກ່ອນພັກເຕະລົງຈາກການເປັນ ນຍ)

ໃນສັງຄົມ ລາວຕ່າງແດນ ດຽວນີ້ ຍາມນິ້ ພົບກັນບ່ອນໃດ ງານໃດ ວັດໃດ ບຸນໃດ ເຂົາຖົກຖຽງ ປະກາດຢ່າງໂຈ່ງແຈ້ງຫັວເຣາະວ່າ

ໂຕ(ເສຖກິດ)ທິ່ສອງເປັນຮອງກັບກາຍເປັນເຈົ້າພໍ່ ຄົນຈົນຢ່າງບໍ່ຮູ້ສືກຕັວ
ໂຕ(ເສຖກິດ)ທິ່ສອງເປັນຮອງກັບກາຍເປັນເຈົ້າພໍ່ ຄົນຈົນຢ່າງບໍ່ຮູ້ສືກຕັວ
ໂຕ(ເສຖກິດ)ທິ່ສອງເປັນຮອງກັບກາຍເປັນເຈົ້າພໍ່ ຄົນຈົນຢ່າງບໍ່ຮູ້ສືກຕັວ

ແຕ່ລະມື້ ສື່ ປທທ
ລາຍງານເຖິງການຈັບກູມ ພວກຄ້າຝີ່ນຂົນຊາ ຈົນ ພວກເຣົາ ພາກັນຕັ້ງຄຳຖາມວ່າ ສປປລ ກາຍເປັນ ປທ ຜະລິດ ຢາບ້າໄປແລ້ວຫລື ??
ທີ່ ເຂດພັທນາພູດອຍຂອງ ໄອ້ ເຫິ້ຍ ນາຍພົນແຈ້ງໄຊຍະວົງເຈົ້າພໍ່ຫັວຫ້ນາແກ້ງມາເຝັຍຕັວຈີງ ກາຍເປັນເສດຖິ
ນ້ຳເບິ1ຂອງ ປທ ມັນກະບໍ່ແປກປຫລາດ ດອກນໍ ຫລື ວ່າ ສັງຄົມໂລກເຂົາໂງ່ໄປແລ້ວ

ແຮງງານລາວຫ້ນາສົງສານ ທັງຍິງທັງຊາຍ ເຕັມ ສຍາມ ປທ ຖືກ ທາງການກັບຈັບກູມແຕ່ລະມື້ ເພື່ອ ລໍຖ້າການຊ່ວຍເຫລຶອສົ່ງກັບ ປທ ພວກຫມາສິ້ແມ່ຣັບຜິດຊອບຍາດເອົາອຳນາດຈາກຝ່າຍຂວາມາຄອງເມືອງເມື່ອ36ປິກ່ອນນິ້ ກັບດັບຫູຫູດັບຕາປົກປິດສີ່ງນີ້ໃນສັງຄົມໂຈນບ້ານມັນຈົນໄດ້ນໍ
ເຖິງພວກລາວລີງທັງປະກາດຕັ້ງຄຳຖາມແບບຕົກໄຈຊີ້ນສະຕີວ່າ

ມັນແມ່ນແທ້ບໍ??

ຫລຶວ່າ ສ້າງຄວາມເສັຍຫາຍຂື້ນເພື່ອທັບຖົມຝ່າຍຕໍ່ຕ້ານແລະເຈົ້າພໍ່ອານານິຄົມຕັວເດັ່ນກັນແບບຕາໄສໆ ຢ່າງກອງພົນກັມມະກອນແກວຫັວຂອດ 21ຄົນ ຂົ່ມຂື່ນສູກສາວບັກໄຊສົມພອນຈົນຕາຍ ທີ່ ເມືອງຫລວງ ແຫ່ງຣາຊອານາຈັກໂຈນ ຄມນ ລາວແດງ ໃນ ທ້ອງເດືອນ 6 ຜ່ານມາ

ແລ້ວແຕ່ຊີເຮັດຊີເວົ້າຊິຖາມແລ້ວສຸເອິຍ

ອຳນາດຢູ່ໃນກຳມືຂອງພວກເຫີ້ຍທັງຫລາຍແລ້ວ?

uly 28, 2011 5:21 AMLao forests feeding Vietnam industry, group says

(AP) BANGKOK — Despite an export ban, Vietnamese companies are smuggling logs from the once rich forests of Laos to feed a billion-dollar wood industry that turns timber into furniture for export to the Europe and the United States, an environmental group said Thursday.

The London-based Environmental Investigation Agency alleged that the Vietnamese military was heavily involved in bribing Lao officials and then trafficking the timber on a massive scale to wood processing factories in neighboring Vietnam. This was denied by the government and military.

Laos, with some of the last intact tropical forests in the region, in 1999 slapped a ban on the export of raw timber and says it is expanding its forest cover. But there are widespread reports of rampant logging, often associated with the country's mushrooming dam projects and agricultural plantations.

"Vietnam is almost annexing areas of Laos to feed its own industries. The only winners in Laos are corrupt government officials and well-connected businessmen," Julian Newman, an EIA staffer, said at a news conference. The group focuses on environmental crime worldwide.

Vietnamese Foreign Ministry spokeswoman Nguyen Phuong Nga denied the allegations.

"There is no smuggling of timber from Laos by the Vietnamese military," she said. "Vietnam pays special attention to environmental protection, strictly forbids smuggling and illegal exploitation of timber."

She said all "smuggling and illegal exploitation of timber will be strictly dealt with in accordance with Vietnamese law. The governments of Vietnam and Laos have been and will be coordinating to prevent all smuggling activities including timber smuggling."

Hanoi has acknowledged in the past that its forestry industry is unsustainable and it is currently negotiating with the European Community to certify its exported wood products as having originated from legal sources.

Vietnam, which exports some $4 billion worth of wood products, banned domestic logging in 1997.

In an undercover operation in 2010 and 2011, the group said it tracked logs in Laos obtained by three Vietnamese enterprises as they made their way across the porous border to factories in Vietnam. It estimates the enterprises yearly smuggle some 8.8 million cubic feet (250,000 cubic meters) of wood worth some $80 million.

One of the three was identified as the Vietnamese Company of Economic Cooperation, or COECCO, an enterprise run by the Vietnamese army and headquartered in the city of Vinh. The company has been in the logging business in Laos for two decades, EIA said.

But officials for the company in Vietnam said it had a license from the Lao government to import logs, obtaining them in exchange for roads and irrigation projects it has built in the country.

The company announced on its website last month the opening of bids for more than 1.2 million cubic feet (34,000 cubic meters) of logged limber imported from Laos. The officials declined to give their names, citing policy.

The Lao government, as part of its 2020 forestry strategy, says that it will "strictly implement the export ban on logs and sawn timber." The ban is covered in a 1999 law and a number of subsequent government orders.

Commenting on the military company's imports, Newman said it may have engineered a "one-off deal" because of its close ties with powerful Lao officials.

International aid agencies in Laos frequently complain that provincial power brokers often make their own business deals with foreign companies, sometimes in contravention to central government laws and regulations.

Video shot by EIA showed trucks hauling piles of logs from Laos into Vietnam and featured both Lao and Vietnamese businessmen talking about bribing Lao government officials to allow the illegal exports. EIA says its investigators posed as potential buyers.

Laos' export ban is also routinely flouted by companies supplying the wood industries of neighboring Thailand and China, EIA said.

EIA first exposed the illegal cross-border trade in 2008 and said that little has changed on the ground since, although the Vietnamese government is moving toward some kind of control.

"By the time the deals (with EU and others) are signed, there won't be any forests left in Laos. Vietnam needs to get its act together and move quickly," Newman said.

Voice of Laotians Overseas


0111. 07. 2011


Subject : Lao PDR Government lacks of ability in Education field then blames teachers


Sithiphone.

Prime minister Thongsing has critised to the wrong spot. It is not the fault of the teachers, it is Prime minister, politebureau and your own government lack of abilities to run the country, LPDR government system is out of Law and Order. In Lao society every body can name the riches people in Laos, where did they get those money from?


Mr Thongsing should tell your elite politebureau team leaders to sacrifice their wealth for the Lao children to gain their education. This is the better way to upgreat the level of Lao education


English to French translation
Le Premier ministre a Thongsing critised au mauvais endroit. Ce n'est pas lafaute des enseignants, il est Premier ministre, politebureau et votre manque de capacités propre gouvernement pour diriger le pays, le système de gouvernementRDPL est hors de Law and Order. Dans la société laotienne tout organisme peutnommer les personnes les richesses au Laos, où sont-ils obtenir ces argent?
M.Thongsing devriez dire à votre chef d'équipe d'élite politebureau à sacrifier leur fortune pour les enfants du Laos afin d'obtenir leur éducation. C'est la meilleure façon de upgreat le niveau de l'éducation du Laos


Phom


You have a good point of the education in Laos similar Dr Khampheuy saying in the Assembly.
Heua lhom nai nhong thong cha pai sai ?
Khon Lao Love Khon Lao.



Security, safety, freedom of Lao overseas retiree are the best option for Lao education.



Lao Nork people have learnt how to donate, be a volunteer so at least some of them can help teaching in the school.


English to French translation
Vous avez un bon point de l'éducation au Laos similaires Khampheuy Dr disant à l'Assemblée.
Heua lhom nai nhong string cha pai sai ?
Khon Kaen Lao Lao Amour.


Sécurité, sûreté, la liberté de Lao retraité à l'étranger sont la meilleure option pourLao éducation.


Populaire lao Nork ont appris comment faire un don, devenir bénévole si au moinscertains d'entre eux peuvent aider à enseigner à l'école.


Chanh


Budgetting for education in Laos,
-Laos can get the donating money from another countries, but if those countries stop donating , what is going to happen ? forcing them ?
-Borrowing from another countries ? When to be able to pay back ? principal and interests. The longer the loan time the more accumulating interest amount.


-How about allowing any Laotians who love their country, mother land LAOS, coming to Laos if they want to help the country the ways their individual skills suppot without too much restriction.


Let's say there are 100,000 laotians with a retirement check of $ 1,000.00 per month. I would assume that anybody can see that the country would receive $ 100,000,000.00 ( one hundred million dollars a month ). When we are there we would spend the money on education support on our own individual family and the economy for the families wich summarising to : Heua lhom nai nhong thong cha pai sai ?


We will have our own pride then !!! We shall support each other in many positive ways,
we should have known by now that to support each other in a negative ways will bring all of us down the drain, some countries look at us not quite as a human being they just do anything to us at their pleasure..


We shall have the brains which work good enough to see the differences between : the GOOD, the bad and the ugly ?

-ເຮົາຫາກແນມຈໍ່ຈອ້ງ ມອງຜ່ານສມຸທຣ໌ຫລວງ
ກວ້າງໃຫ່ຍເກີນກາຍເຫັນ ຂອບແຄມທະເລໂຄ້ງ
ຟ້າກົ່ງກວມກາຍໜ້າ ເທິງເວຫາຫາກມີເມຄ
ໂຍກເຍກຟອງພັດຍູ້ ຟູຟົ້ງຝັ່ງທະເລ ວ່ານາ...
-ເຮັດໃຫ້ຄິດຄໍ່າຄອ້ຍ ຄອຍຕລິ່ງແລຫລຽວ
ບອ່ນທີ່ເຄີຍທຽວລັດ ນັດຄົນເຮືອນໄກ້
ບາດວ່າໄປເຖິງແລ້ວ ບໍ່ມີແວວໃຜຜູ້ໜຶ່ງ
ກໍຈຶ່ງກົ້ມໜ້າເສົ້າ ເຫງົາງວ້າງຢູ່ຜູ້ດຽວ ແທ້ໃດ...
-ໄດ້ທໍ່ອຽງເອ່ນເທີ້ງ ແນມເບິ່ງນທີໄຫລ
ມັນຟັດໄປແສນໄກ ບໍ່ຕ່າວຄືນໃຫ້ເຫັນອີກ
ໄຫລຫລີກເລີຍລົງແກ້ງ ໃຫ້ເຮົາແຍງຍາມຄໍ່າ
ຟ້າຕໍ່າລົງມືດແລ້ວ ຈຶ່ງຄືນບ້ານບອ່ນເດີມ...
-ປຸນປຽບສາຍແມ່ນ້ຳ ຍາມຈາກຈອຣໃຫລ
ຄ້າຍດັ່ງໃຈຄົນລວງ ຫລອກກັນໃຫ້ສັລຍ໌ເສົ້າ
ບອກໃຫ້ເຮົາມາຖ້າ ບໍ່ເຫັນມາຕາມບອກ
ສອງຟາກແກ້ມໝາກຫວ້າ ກໍເລີຍເປື້ອນປຽກນ້ຳຕາ...
ນ້ຳຫຽງ

ສະບາຍດີ ພີ່ນອ້ງລາວ ທີ່ຮັກຊາດທຸກໆທ່ານ
http://upload.sodazaa.com/image-050B_4E327CA7.jpg
ຮູບບຸກຄົນຂ້າງເທິງນີ້ ຄື ບຸກຄົນທີ່ອ້າງຕົນວ່າເປັນ ນັກຕໍ່ສູ້ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ
ຕໍ່ສູ້ເອົາເອກກະລາດ ມາໃຫ້ປະເທດລາວ ແລະປະຊາຊົນລາວ ວ່າຊັ້ນ ທີ່ແທ້
ຜູ້ກ່ຽວນີ້ ເປັນ ລາວລີງ ທີ່ຮັບໄຊ້ ພັກລັດ ສປປລາວ ມາຕລອດຫຼາຍປີ, ຜູ້ກ່ຽວ
ໄດ້ ຕິດຕໍ່ພົວພັນ ແລະນຳຂ່າວຄາວ ຂອງນັກສູ້ອັນແທ້ຈິງຂອງຄົນລາວ ໃນ
ສະຫະລັດອາເມຣິກາ ແລະ ທົ່ວໂລກໃຫ້ແກ່ ລັດຖະບານ ສປປລາວ ມາຕລອດ
ຄັ້ງນີ້ ຄື ທ່ານຄົນນີ້ ໄດ້ໄປພົບກັບ Dr.ທອງລູນ ສີສູລິດ ແລະ Mr.ພົງສວັດ ບຸບຜາ
ໃນ ວັນທີ 30 ມິຖຸນາ 2011, ເພື່ອຕິດຕໍ່ພົວພັນດັ່ງທີ່ເຂົາເຄີຍທຳມາ.
ທ່ານຄົນນີ້ ຄືວິນລຽມ ບົວຣອຍນັ້ນເອງ ( ຜູ້ທີ່ຈັບມືກັບ ທອງລຸນ ) ໃຫ້ພໍ່ແມ່ພີ່ນອ້ງ ເບິ່ງເອົາ
ຄົນທີ່ອ້າງຕົນວ່າ ເປັນນາຍຍົກລັດຖະບານ ອະດິດພຣະຣາຊອານາຈັກລາວ ທີ່ແທ້ກໍແມ່ນ ມາຮຸບແບບແອບແຝງຊື່ໆ.
ຂໍໃຫ້ພີ່ນອ້ງລາວນອກ ລະວັງຕົວກັບ ລາວລີງຄົນນີ້ອີກ ຄົນນື່ງ ທີ່ຮ້າຍກາດ ແລະອັນຕະລາຍຕໍ່ພີ່ນອ້ງລາວນອກ.

http://postimage.org/image/2lwqu8h2c/http://postimage.org/image/2lwqu8h2c/

http://www.ocasia.org/News/IndexNewsRM.aspx?redirect=972

ນິຍາຍສາກຈີງຂອງຣາຊວົງອັບປຣີ
ตอนที่ 191 - 29 July 2011 - 04:34 PM
von Hi s Tales, Freitag, 29. Juli 2011 um 02:43

วันนี้ มีเรื่องใหญ่ เรื่อง รายงานเรื่องการ จากไปของเพชรา ถ้าใครพอจะจำกันได้ เราได้เคยรายงานเอาไว้แล้วในตอนต้นๆ ว่า เพรชา น่าจะอยู่ได้ราว กลางๆ ปี 53 ( เพชรา เป็นมะเร็งเต้านม กระจายไปปอด และกระดูกสันหลัง)



ถ้าเธอไม่ถูกสั่งยื้อชิวิตเอาไว้ ตามโหรหลวงทำนายไว้ ที่โหรสั่งว่า เธอต้องตายภายในปีหน้า ดวงลุงจึงงจะแข็งขึ้นมากๆ





แต่ หมอไม่สามารถยื้อ ชีวิตเธอเอาไว้ได้ เรื่องช่วงวินาทีสุดท้ายของการตาย และสภาพการแย่งมรดกของเพชรา ( ทรัพย์สมบัติอันมากมายของสาย เสาวภา ) เรื่องคำสาปแช่งของเพชราก่อนตาย สงสัยว่าเธอพึ่งจะรู้ความจริงเกือบทุกเรื่องว่า คนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแท้ๆ ของเธอ ทำไมถึงทำทุกๆ อย่างกับเธอได้มากถึงเพียงนี้



และเรื่องการตัดนิ้วก้อยข้าง ซ้ายของเพรา ที่เราเองก็ไม่รู้ว่า ทำไมหมอต้องตัดนิ้วของเธอ และจะตัดเอาไปเพื่ออะไร เอาไว้ ตอนหน้าคงจะมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น และจะมีเรื่องของ รังรัก แห่งใหม่ของป้า ที่เขาตะเกียบ และเขาเต่า กับชายคนใหม่ ทีอายุเด็กคราวลูก







วันนี้ ขอ รายงานต่อ เรื่องใหญ่ เมื่ออาทิตย์กว่า กันก่อน ที่เห็นก็จะมีด้วยกันอยู่หลาย เรื่อง เราขอรายงานเรื่อง เครื่องบินของจ่าห้าวก่อน





ก่อนจะมารายงาน เรื่อง โบอิ้ง 737-400 ของจ่า วันนี้เราจะขอมา review เรื่องราวขั้นพื้นฐานของเครื่องบิน และ ตัวของจ่ากันเสียก่อน ทุกคนก็คงจะทราบกันดีว่า จ่า เป็นกัปตัน การบิน



เดิมทีจ่า ห้าว เป็นนักบินของกองทัพอากาศ จ่าจะขับ F-5 จ่าเป็นนักบินที่มีชั่วโมงบิน ของ F-5 มากที่สุด จ่าเคยต้องการเรียนขับ F-16 :bn48:้วยสภาพร่างกาย และโรคที่จ่าเป็นอยู่ จึงทำให้จ่าไม่สามารถขับ F-16 ได้



และการขับ F-5 นั่นเองก็ทำให้จ่า เปลี่ยนมาขับเครื่องบินพาณิชย์ โบอิ้ง 737 (เทคโนโลยี การทำงานของเครื่องทั้งสองจะใกล้เคียงกัน)





เพราะ มันสมองจ่าไม่เก่งพอที่จะบิน โบอ้ง 777 โดยปกติ การเป็นป็นนักบินพาณิชย์นั้น ใครที่เรียนขับเครื่องบิน รุ่น และยี่ห้อไหน ก็มักที่จะใช้เครื่องนั้นๆ ไปตลอด และคนๆ หนึ่ง ก็จะไม่ขับเครื่องเป็นหลายๆ รุ่น (จ่าใช้เวลาเกือบเรียนเกือบ 20 ปี ถึงจะได้ใบอนุญาตการบิน โดยปกติคนธรรมดาอายุ 30 ต้นๆ ก็สอบผ่านได้แล้ว )



เครื่อง ที่จ่าขับ เป็นโบอิ้งรุ่น 737 เครื่องบินระยะกลาง คือ บินไกลถึงยุโรป บินได้ไกลแค่ 1,250 ไมล์ทะเล จ่าต้องแวะเติมน้ำมัน ที่ดูไป ก่อน



จ่า มีเครื่องบินรุ่น 737-400 อยู่ทั้งหมด 3 ลำ (ขอแก้ไขข้อมูลเดิม) 2 ลำ กองทัพ มอบให้ อีก ลำ การบิน มอบให้ การมอบให้ก็น่าจะทำกันในช่วง การยึดอำนาจ คือ หลังปี 49 เพราะในช่วงนี้ ครอบครัวลุงอยากได้อะไร ไม่ว่าจะแก้กฎหมาย หรือ ของแพงๆ อะไร รับรองเป็นได้หมด ( รวมไปถึง บ้านเหยียบ 1000 ล้านทวี ของรัศมีจันทร์ )





การที่จ่า เอาเครื่องบินไปขับเล่น ไป-กลับ ก็ใช้น้ำมัน เกือบ 80 ตัน น้ำมันตันละ 30000-40000 บาท ก็ลองคูณกันเอาเอง นี่ยังไม่รวมค่าธรรมเนียนที่ต้องบินผ่านน่านฟ้า ค่าธรรมเนียมลงจอดอีก รวมแล้วก็เหยียบ 10 ล้านบาท ต่อ เที่ยวบิน



ภายในเครื่องบิน ของจ่ามีการตกแต่งที่หรูหรามาก ถ้าใคร นึกจินตนาการภาพภายใน เครื่องบินไม่ออก ก็ลองนึกภาพตาม



ประตู หน้า จะเอาไว้ให้จ่า และนักบิน ขึ้น (รวมไปถึง ครอบครัวของลุง) ภายในตกต่งอย่างหรูหรา ประตูด้านหลังจะเอาไว้ให้ลูกน้อง และผู้ติดตาม ที่จะติดตามคราวละ 40-50 คน ภายในตรงกลางของลำ ตรงนี้แหละ สัมภาระ เจ้ากรรม ที่มีปัญหา



เหตตุผลที่ว่าทำไมจ่าต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการใช้ชีวิตอยู่ที่เยอรมัน ตอนนี้ก็น่าจะมีเหตุผลหลักๆ เพียง 2 ข้อ



1. จ่าได้สร้างคฤหาสน์ ราคาเกือบ 200 ล้าน ที่เยอรมัน ไว้อยู่กับเมียน้อย ตอนนี้ อัพเดพ ล่าสุด จ่ามีเมียคนล่าสุด เป็น แขกขาวมุสลิม ชาวปากีสถาน (คนนี้ มาทีหลังเมียแอร์ลูกดารา แต่ไม่รู้ว่ามาก่อน แอร์ที่ ตาคลี หรือเปล่า)

2 จ่า มารักษาตัว ด้วยโรคร้าย จ่าเคย เข้าโครงการ ของ AFRIMS ( Armed Forces Research Institute of Medical Sciences. ) อยูที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎ ตึกๆ อยู่ใกล้ วัดมะกอก ที่วิจัยเรื่อง วัคซีน vaccine studies for the HIV-AIDS virus. แต่จ่า ล้มเลิกไปเสียก่อน จ่าต้องเริ่มต้น กับการรักษาใหม่ที่ เยอรมัน



จ่าต้องมาตรวจ เช็คระยะ ของไวรัส ทุก 4-8 สัปดาห์ เมื่อ วันที่จ่า โดนยึดเครื่องบิน ก็เป็นวันที่จ่าต้องมีนัดกับหมอ ที่เยอรมัน ตอนนี้ ทีว่าจ่าโชคร้ายเอามากๆ เพราะประวัติผลการรักษา และเอกสาร ของโรคที่จ่าเป็นอยู่บางส่วน ยังติดอยู่ในเครื่อง

และทางการเยอรมัน ตรวจพบ อาวุธสงคราม นั้นก็เป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องยา นั้นเราว่าคราวนี้จ่าไม่น่าจะค้านะ

เรื่อง อาวุธสงคราม เช่น ปืนอาร์ก้า ปืน HK เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ ในขบวน ของครอบครัวลุงทุกคน จะต้องมีรถในขบวน ที่มีอาวุธพวกนี้ ก็ควจะเอาไว้รักษาความปลอดภัย ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน แต่ในโรงงานของลุง ใครจะทำอะไรก็คงไม่มีใครกล้าหือ





แต่ที่เยอรมัน เขาถือว่า เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ และ เรื่อง ยา



ยา ที่ตรวจพบ และถูกจับ เป็นยาเคตามีน และ กัญชา ปริมาณไม่มาก ซึ่งคราวนี้ ไม่ใช้ผงขาว อย่างที่เมียอ้วนเคยโดนถูกจับมา ตรงนี้ยังเป็นปัญหาที่ยังเคลียร์ ไม่ลงตัว เพราะว่าเรื่องยา ถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ที่นี่

เป็นที่รู้กันว่า ยาพวกนี้ จะจ่าน่าใช้เวลาแก้ปวดศีรษะ ที่จ่าเป็น (จ่าเคยเป็นเชื่อรา ขึ้นสมอง ตอนนั้นมีข่าวลือว่าจ่าเสียชิวิต จนรัศมีจันทร์ ต้องออกมาแก้ข่าว)



จ่า หัวเสียเป็นอย่างมาก ตอนนี้ใครที่อยู่ จังหวัด 904(บ้านสุโขทัย และบ้านอัมพร ใกล้พระที่นั่งอนัน) ของจ่า ต้องหนาวๆ ร้อนๆ ใครทำอะไรขวางหูขวางตาจ่า ก็อาจจะดดนสั่งขังได้ ตอนนี้ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่าเรื่องราวเครื่องบินของจ่า จะลงเอยอย่างไร





เรา ให้ข้อสังเกตุ ในจอ ให้สังเกตุ สามี ใหม่ ของ ถั่ว ให้ดี คนนี้ เป็นคนที่ 3 ในรอบ ปีนี้ (ไม่ใช่ มนุษย์กบ แต่เป็น ทหารอากาศ) และว่าที่สามีใหม่ของวัลภา ด้วย

NEWS

Vietnamese firms deny illegal timber accusations 16/04/2008

(TBIC) - Vietnam’s furniture companies have unanimously rejected an Environmental Investigation Agency claim that the country’s furniture sector depends on illegal timber. undefined undefined

undefined undefined undefined undefined   undefined undefined undefined undefinedWorkers at Hoang Anh Gia Lai, one of Vietnam’s 151 wood processing companies that have obtained a Forest Stewardship Council certificate undefined undefined undefined undefined   A 24-page report released by the U.K: based organization last month said that Vietnamese lumber traders have been depending on criminal networks to illegally exploit forests in neighboring Laos and use the stolen timber to make hardwood furniture. A 24-page report released by the U.K: based organization last month said that Vietnamese lumber traders have been depending on criminal networks to illegally exploit forests in neighboring Laos and use the stolen timber to make hardwood furniture. The report, jointly conducted with the Indonesian non-profit environmental organization Telapak, said that most of the illegal wood is made into furniture for the US market. Vietnam is the world’s fourth-largest wood products exporter, topping US$2.4 billion in shipments last year, a ten-fold increase since 2000. In an interview with Thanh Nien Tuesday, Nguyen Chien Thang, chairman of the Ho Chi Minh City Fine Arts and Wood Product Processing Association, said the organization is preparing an official analysis pinpointing and analyzing the report’s inaccuracies. He said the report would be published in industry magazines and sent to the Forest Stewardship Council (FSC), an international organization based in Bonn, Germany that promotes the sustainable management of the world’s forests. According to Thang, the two organizations were mistaken when they said Vietnam’s booming furniture sector relied on illegally logging Laos’ vanishing forests. Laos banned the export of logs in 1999, said EIA and Telapak. “The report certainly has created a negative image of our industry,” he said, adding that in 2007 Vietnam imported about $70 million worth of timber from countries such as New Zealand, America and Canada. Following the report’s release last month, several American companies have requested Vietnamese furniture companies to ensure that they do not process smuggled timber. However, Thang said there would not be any lawsuits filed against EIA and Telapak. In the EIA/Telapak report, several domestic wood manufacturers were accused of supplying illegally logged Laotian wood to the US market, including HCMC’s Khai Vy Corporation, Binh Dinh Province’s Dai Thanh Furniture and My Tai Furniture. The report accused several Southeast Asian nations’ companies of attaining the wood through bribery. Thai and Singaporean companies were also implicated as profiting off illegal Laotian wood in the report. Thang said all Vietnamese furniture export companies must obtain an FSC certificate, which he said proved that they do not meddle with illegal logging. However, the report alleged that Vietnamese firms and several others had “bought” FSC certificates to deal with American importers. Tran Quoc Manh, chairman of Sadaco Company, another furniture company in HCMC, said Laos has prohibited the export of original forest wood without government permission, but he said Laotian authorities did allow the export of timber exploited from man-made forests. EIA and Telapak reported that “45 trucks laden with logs” were seen lining up in Laos waiting to cross the Vietnamese border near the port of Vinh. The two organizations estimate that at least 500,000 cubic meters of logs are transported from Laos to Vietnam every year. Manh said it’s hard to account for exactly where all Vietnamese firms source all their lumber and said that seeing the trucks “doesn’t really prove anything.” “These organizations should have worked with the Vietnam Forest Association and other Vietnamese entities before coming to any conclusion,” Manh said. “We must look into all sides of the story, maybe look at the motivation behind this report, before coming up with the best way to deal with this.” Also according to Math, Vietnam is working with other ASEAN countries to develop regional legal guidelines for planting, exploiting and preservation of forests that is compatible with a thriving lumber sector. Vietnam hopes to increase its furniture exports to $3 billion this year.

• ຄວາມໂຊກຣ້າຍທິ່ ປຊຊ ມິຜູ່ນຳຂິ້ກາກນຳພາ ຊາດ ໄປສູ່ຄວາມຫລົ້ມເຫລວອັບອາຍ

  ຍອມເປັນຂິ້ຂ້າມ້າໄຊ້ໃຫ້ພວກແກວຫັ­­ວຂອດທິ່ທຸກຍາກລ້າຫລັງເອົາປຽບເຈົ້າຂອງ ປທ ໂດຍອາສັຍສັນຍາພິເສດລາວແກວປິ1977­­ຊື້ງບໍ່ສົມຄວນຈະມິແທ້ໆເພາະສົງຄ­າ­ມຫົມດແລ້ວ1893 ຫາ1954 ຣາຊອານາຈັກລາວຖືກ ຝັ່ງເສດປົກຄອງ ພີ່ນ້ອງລາວທິ່ ຖືກ ປທ ສຍາມຍືດຄອງ ຕາມຊາຍແດນ

  ເຂົາອິດສາຄົນລາວເຮົາທິ່ໄດ້ ຣັບແຕ່ສິ່ງໄຫ່ມໆຈາກປາຣິເພາະເວລາ­ນັ້ນຫນອງຄາຍ ສາກົນ ມຸກດາຫານ ໄກຈາກກຸງເທບເຫລືອຫລາຍ ເຂົາຈື່ງປິ່ນຫ້ນາມາເບິ່ງຄວາມຈະເ­­ຣິນທິ່ຝັ່ງຊ້າຍ

  ແຕ່1954ຫາ1975 ອມຣກ ມາທຳສົງຄາມໃນລາວປານນັ້ນລາວເສຣິ

   

   

  ຍັງມິ ອະນຸສາວະຣິ ຫໍຄຳ ຖົນນລ້ານຊ້າງvillasງາມໆແລະ.. ໄວ້ຕ້ອນຮັບ ໂຈນມາແຕ່ຖ້ຳ ແຕ່ນັ້ນມາຮອດມື້ນິ້ເກືອບເຄິ່ງສັ­­ຕວັດແລ້ວ ພາຍໄຕ້ໂສ້ຂອງແກວ ປທກູຖ້ອຍຫລັງ ເຫັນສວັນນະເຂດແລ້ວນ້ຳຕາຕົກ ລາວທິ່ຫນອງຄາຍ ອຸບົນສິຊຽງໄຫ່ມ ຖ້າ ຖາມໄດ້ ເຂົາຊີຖາມວ່າ ການມິເພື່ອນທິ່ທຸກຍາກມັນສົມຄວນມ­ິບໍ ??? ແລ້ວ ລາວຕ່າງແດນ ທິ່ ໄປອາສັຍໃນ ປທ ທິ່ ສິວິໄລທິ່ສຸດໃນໂລກ ຍຸກ ສຕວ ທິ່ 21 ນື່ງລ້ານຄົນ ເຂົາຈະຕອບແທນພິ່ນ້ອງເຂົາວ່າ ເອົາພວກຂ້າພວກຂອມໄປຕັດຄໍຫົມດເລິ­­ຍໄດ້ແລ້ວຕ້ອງພາກັນສ້າງສັງຄົມໄຫ­່ມທິ່ສົດໄສ ເປິດໂປ່ງ ຮັບຜິດຊອບໃນການບໍລິຫານປທ ທິ່ມິແຕ່ການປົ້ນ
•  

  ຫລິ້ນພັກຊູພວກ ອ່ອນເພັຍຂໍທານ ອວດເກັ່ງ ເປັນ ເທວະດາແດກແມງວັນບໍ່ເບື່ອ ແລ້ວ ເອົາມາຂື້ນສານປຊຊທິ່ເດື່ນທາດຫລວ­­ງຍີງເປົ້າຫົມດທັງໂຄດມັນ ພວກປໍ3ປໍ4 ຂິ້ກາກ ນອນເຕັງກັບອຳນາດມືດ ຂື້ນແລ້ວຕາບອດ ບໍ໋ຍອມລົງ

• ໃນ ປທ ທິ່ມິເສຣິປຊທປຕ ເຂົາປ່ອຍໃຫ້ນອນຕິດກັບອຳນາດ ມືດເຖື່ອນນິ້ຢ່າງຫລາຍກະ 8 ປິແລ້ວ

  ເຂົາເອົາມາຄັດຄໍ

  ຕັວຢ່າງ ພວກເຮົາພາກັນຕັ້ງຄຳຖາມກັນໄດ້ແລ້­­ວວ່າ 4 ປິ ຜ່ານມາ ບັກ ຈູມມາລິ ປະທານ ຄົນນິ້ ມັນເຮັດຫຍັງໃຫ້ ປທ ນິ້ ເຖິງ ພັກຕໍ່ອາຍຸໃຫ້ມັນອິກ 4 ປິ

  ຫລຶ ຊິໃຫ້ ລາວທັງໂລກ ນີ້ ອ່ວຍຫ້ນາໄປຖາມເຈັກໄປຖາມແກວ ທິ່ ປັກກິ່ງ ຮາໂນຍບໍ ??

  ຝູຍຝູຍ

   

   

  ຂີ້ລົດກາຍ ສະໝາມກິລາແຫ່ງຊາດ ແຫ່ງໃຫມ່ ທີ່ສ້າງຂຶ້ນເພື່ອຮັບໃຊ້ ກິລາຊີເກມປີ 09 ນັ້ນ

• ມື້ວານນີ້ ຂ້ອຍຂີ່ຜ່ານຕົກໃຈເມິດເພາະບໍ່ຄິດ­­ວ່າເພິ່ນຈະປະປ່ອຍໃຫ້ມັນຮົກຮ້າງ­ຄ­ືແນວນີ້

  ຫຍ້າບໍ່ມີການຕັດແລະບໍ່ເປີດໃຫ້ຄົ­­ນໃຊ້ແບບນີ້ ເຂົາເອີ້ນວ່າ ເສີຍທັງງົບປະມານອ້າຍນ້ອງຈີນ ເພິ່ນເອົາໃຫ້ເຮົາມາໃຊ້ທາງພາກສ່ວ­­ນທີ່ກ່ຽວຂ້ອງ ຄວນມີມາດຕະການແກ້ໄຂດ່ວນ

  copy from pasalaoblogspot.ຄອມ

  ກູຢາກໃຫ່ພວກລາວລິງດຣຍັງດາວບັກແມ້ວເສັຍສະຕິມາອ່ານເດ

  ນິ້ແລ້ວພີ່ນ້ອງລາວເອິຍເຖິງເວລາແ­­ລ້ວທິ່ພວກທ່ານຄວນທັ່ງມັນໄປ ທິ່ຊຳເຫນືອຄືນຫລືສົ່ງໄປ ຫລິຜີ ທິ່ ອັຕປື ທັງຫົມດເລິຍ

   

   

 

I 'm under the dirt beneath your feet. แปลว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จ เจ้าฟ้า จูมมาลี เป็น Pronoun สรรพนามแทนตัวเอง ของพวกบ้าเจ้า คมน ลาวแดง ..ที่ฝรั่งไม่มี ..เค้าเลยสามารถที่จะเอาทรัพยากร มาแบ่งกันอย่างเป็นธรรมได้..ไม่ใช่ให้ ไอ้เหี้ยจูมมาลี และ พรรคพวกมัน ที่เหนือกว่าคนที่อยู่ใต้ฝุ่นใต้ตีนโจรมันขโมยไปหมด

ນີ້ເຂົາເອີ້ນວ່າ ການຊອກຫາຄວາມຈີງ ບົນພື້ນຖານ ຂອງເຫດການປາງນັ້ນຢ່າງທ່ຽງແທ້ແນ່ນອນທີ່ ສຸດ ບອກ ໄດ້ ວ່າ ພວກ ໂຈນ 36 ປີນີ້ ບໍມີທາງ ຈະແງະ ຕົວອອກຈາກ ຄຳເວົ້າຫລອກລວງຊາວບ້ານ ມາໄດ້ແຕ່ດົນໆແລ້ວ ຢ່າງແນ່ນອນ
ພັກພວກເຂົາປີ້ນເຫດການມາແລ້ວ ສາມທົສວັດ ດີໆ ເຖີງ ເວລາແລ້ວ ທີ່ ຊາວບ້ານ ເຂົາ ຊີມາບັງຄັບ ບີບຄໍຫອຍພວກ ເຖື່ອນນີ້ ໃຫ້ຮັບຮູ້ກັບເຫດການ ປາງນັ້ນ ວ່າ ໃຜ ແທ້ ເປັນໂຈນ

=========================================
ພໍຫັລງຈາກຂື້ນຄອງເມືອງແລ້ວ ໃນ ປີ 1975 ພວກ ເຂົາ ເລີ້ມຊອກ ລະດົມປູ້ນ .......ຢ່າງເອົາເປັນເອົາຕາຍ
ຫັລງຈາກບໍ່ເຫັນຫ່ອງຮອຍ ວ່າລາວຝ່າຍປໍລະປັກ ໄດ້ ສໍ້ໂກງຕ່ອນເງິນຊາຕ ຕາມທີ່ ໂຕຄິດໄວ້ ສມັຍນອນໃນຖ້ຳຊຳເຫນຶອ ແລ້ວ ກະເສັຍອົກ ເສັຍໄຈ ຖື້ມສາຍຕາ ໄປ ຊອກຫາຕ່ອນເງີນໃນຕ່າງ ປະເທດ ກະບໍເຫັນຫັຍງຫົມດ ອີກຕາມເຄິຍ
ແປວ່າ ຊີຊອກຫາຫັລກຖານ ພີຍານມາຜູກມັດພວກເຂົາບໍ່ໄດ້ຫັຍງ
ຫົນດ ນອກຈາກມີແຕ່ເຫົ່າແລະ ເຫົ່າ ມາແລ້ວ ແຕ່ປີ 1975ນັ້ນເອງ
ຮອດດຽວນີ້ ຣັຖບານ ຄມນ ລາວ ບໍ່ເຄີຍໄດ້ຣັບຄຳຕອບຈາກ ທະນາຄານ(ໃນຮູບຣັຖບານຕໍ່ຣັຖບານ)ຕ່າງປະເທດ ຈັກ ປທ ເປັນຕົ້ນແມ່ນ ປທ ສະວີດເຊີແລນ ທີ່ ພວກ ເຂົາ ກ່າວຮ້າຍວ່າ ລາວ ວຽງຈັນ ຫອບ ເງີນມາຝາກໄວ້ ປທ ນີ້ ເປັນ ພັນໆລ້ານ $

ຄວາມຈີງຢູ່ ທີ່ ນີ້ (ສປປລ)ຊາວລາວໄດ້ເຫັນ ໂສມຫ້ນາ ໂຈນບ້ານໂຈນເມືອງ ທີ່ ບໍ່ວ່າຍາມໄດ ກະ ປະຕີເສດ ຄວາມເປັນໂຈນ ຂອງກູ່ມພວກເຂົາເອງ ທາຕ ແທ້ ກະ ອີ່ເຫົນາ ມັນເປັນເອງ
(ຂໍໂທດ ເອົາເນື້ອເພັງຂອງສິດດົງໂດກ ມາອ້າງ ເພື່ອ ຊູນ້ຳຫັນກ)

ແລ້ວ ໃນ ທີ່ ສູດ ພວກ ກວນບ້ານ ເຮັດຢ່າງໃດ ກັບຄວາມແຄ້ນຂອງເຂົາ ? ເມື່ອ ເອົາຄວາມຜິດ ຂອງພວກ ຝ່າຍຂວະ
ບໍ່ໄດ້(ຂາດຫັລກຖານຮອດ ປີ 2011 ເດີ ພວກ ຫມາພານ ທີ່ ສະນັບສະນູນ ພວກເຖື່ອນ ສາມຊົ່ວໂຄດນີ້)

ໂອຍ !! ສັນດານໂຈນ ພວກນີ້ ກະບໍ່ຍອມຈະເສັຍປຽບຈັກເທື່ອ ພວກເຂົາ ກະເດີນທາງ ໄປ ລອນດອນ ໂຕກຽວ ແລະ ທີ່ Nice
ໄປຂາຍສັບສົມບັດຂອງຊາຕ ລາວ ເຮົາ ຢ່າງຊີ້ນສະຕີ ແບບຜູ້ນຳ ທີ່ ບໍ່ຮັກແຫນຄວາມເປັນຕົວມະນຸດ ທີ່ ຮັກຊາຕເກິດຕົນນັ້ນເລີຍ(ກະບໍຕ່າງຫັຍງກັບຍາມນີ້ ຫັລງຈາກ ຄອງເມືອງລຽນຕີດລຽນ
ຕໍ່ກັນໂດຍບໍ່ຂາດລະຍະ ແບບລ້າຫັລງ ທຸກຍາກປາກຫມອງ
ຂໍທານຊາວໂລກກີນແບບຊີ້ນຊາກເລີຍ ທຳລາຍປ່າໄມ້ທັມມະ
ຊາຕຂອງ ປທ ເຮົາ ແບບບໍຈົ່ງຫ້ນາເປັນເວລາເຖີງ 36 ປີ ແທ້ໆ)
ແປວ່າ ສະຖານທູດລາວ ສອງ ປທ ນີ້ ພວກເຂົາ ກະ ຂາຍ ໄປ ຢ່າງຫ້ນາເສີຍໆ ໂດຍ ບອກວ່າ" ບໍ່ຈຳເປັນ "ຮອດດຽວນີ້ ພວກ ເຂົາ
ກະເອົາເງິນພາສີ ຊາວບ້ານ ທັງລາວນອກ ລາວໃນ ມາເຊົ່າ ບ້ານພັກ ຂອງ ສະຖານທູດຕົນ ຮອດດຽວນີ້ ຢ່າງແພງ ເຈັບແສບທີ່ ສຸດ ເພາະ ສອງເມືອງຫລວງນີ້ ເປັນ ບ່ອນ ທີ່ ມີການເຊົ່າບ້ານເຮືອນ ທີ່ ແພງ ທີ່ ສຸດໃນໂລກ ຈົນ ພວກ ເຂົາເອງຕ້ອງຕີກັນເອງວ່າ ຖ້າ ພວກ ເຂົາບໍຂາຍສັບສົມບັດຂອງຊາຕ ໂດຍບໍ່ມີເຫດຜົນປາງນັ້ນ ປຊຊ ຈະຕ້ອງ ຍາມນີ້ ອາດຈະທ້ອນເງີນຄຳ ໄວ້ຫລາຍໆ ຮ້ອຍລ້ານ ໂດລາຣ ນັ້ນເອງ

ຫັລງຈາກ ຈາກ ຂາຍສອງສະຖານທູດແລ້ວ ສຸວັນນາພູມມາ ເອັງ ອະດິດ ນຍ ທີ່ ເປັນ ອ້າຍຂອງເຈົ້າແດງ ກະຊັກຕາຍມາ ເມືອງຝັ່ຣງ ເພື່ອ ອ້າງວ່າ ບ້ານນ້ອຍ ໆຫັລງ ນື່ງ ທີ່ ບໍຢູ່ຫ່າງໄກ ຈາກ "ນີສ"ເທົ້າໃດ (ຕາມເສັ້ນທາງ ໄປ ໂມນາໂກ ລ້ຽວຂວະ) ທີ່ ເປັນກັມມະສີດ ຂອງຣາຊວົງລາວທີ່ ຊື້( ພຣະອົງ ໃຫ້ອ້າຍນ້ອງຂອງພຣະອົງເຊັນສັນຍາຊື້ຂາຍນີ້ ແລະ ສຸວັນນາກະຮູ້ດີວ່າ ຣາຊວົງລາວ ເປັນຕະກູນເຊື້ສາຍລາວ ທີ່ ຊື່ສັດແທ້ໆ ບໍ່ຍອມຈະເອົາເອກກະສານ ເປັນ ທີ່ ຖືກຕ້ອງກົດຫມາຍ ແທ້ໆ ມາອ້າງອີງເພາະ ເຫັນວ່າ ບໍ່ຈຳເປັນຈະຍົກເອົາບ້ານນ້ອຍໆ ບໍ່ມີຄວາມຫມາຍນີ້ມາເປັນສີ່ງຕໍ່ຮອງ ຂັດຂວາງແຜນປູ້ນຊາຕອງ ພວກ ມີ ໄຊ ປາງນັ້ນ) ໄວ້ ໃຫ້ລູກຫລານທີ່ ມາສືກສາຮ່ຳຮຽນປາງກ່ອນ ທີ່ ເມືອງຝັ້ຣງມາພັກຜ່ອນ ໃນຍາມ ຢຸດຮຽນ

ແລະ ເມັດເພັດ ເດ ??? ຢູ່ໄສ ເມັດຫ່ນວຍນີ້ ນະ ຣັຖບານ ລາວວຽງຈັນ ກະຣັກສາ ໄວ້ ປັນມູນມໍຣະດົກຂອງຊາຕ ແທ້ໆເດີ ຈົນ ວ່າ ໃນ ທີ່ ສູດ ໂຈນ ເຖົ້າຂາດຄວາມຮູ້ບໍ່ຮ້ຈັກ ຊີ ເຮັດ ກະນຳອອກ ມາ ຝາກ ທີ່ ປທທ ແລ້ວ ກະ ຖືກ ໂຈນ (ແຜນໂຈນປູ້ນໂຈນບໍ?)
ລັກໄປເລີຍ ຈົນ ຮອດ ດຽວນີ້ ພວກ ໂຈນນີ້ ກະ ບໍ່ສາມາດ ມາອະທີ ບາຍ ທີ່ ໄປ ທີ່ ມາ ຂອງ ການສູນເສັຍ ເມັດເພັດຫ່ນວຍນີ້ໄດ້!!

ທັງຫົນດ ທີ່ ກ່າວ ມາຂ້າງເທີງນີ້ ແມ່ນ ຊາວ ເຣົາ ໃນ ປີ 1975 ໄດ້ ຮັບໂຊກ ຣ້າຍທີ່ ສຸດ ໃນ ຊີວີດ ຂອງພວກເຂົາ ທີ່ ມີ ກູ່ມ ໂຈນ ເຂົາ ມາຣັບຜິດຊອບໂຊກຕາກັມຂອງບ້ານເມືອງ ແບບ ອ່ອນເພັຍ ຂາດ ສະມັດຕະພາບທີ່ສູດຊອງປະວັດສາຕສມັຍໄຫ່ມຂອງພວກ ປທ ພວກເຂົາ
ຈົນ ໃນ ທີ່ສຸດ ພວກເຂົາ ສາບສ່ຽງບໍ່ແລ້ວ ບໍ່ເຊົາາຈັກເທື່ອ ວ່າ ຂອງໃຫ້ ຍຸກນີ້ ຊີ້ນສຸດໄປ ໄວໆເຖິດ ຖ້າບໍດັ່ງນັ້ນ ພວກ ເຂົາ ຈະແບກກັບຄວາມອັບອາຍຂາຍຂາຍນີ້ຢູ່ຕໍ່ໄປ ຢ່າງບໍ່ມີວັນຊີ້ນສຸດ....



ພະນະຖ່ານ ຈູມມາລິ ປທ ຄົນໄຫ່ມ ພັກລາກໃຫ້ຕໍ່ອາຍຸເປັນຄັ້ງທີ່ສອງ

ແລະ ນຍ ປໍ3 ທອງສິງ ແກວຮາໂນຍອູ້ມມາຄອງຕຳແຫ່ນງນີ້ ຫລັງ ຈາກ ນຍ ບັວສອນ ຕົບໂຕະໄສ່ຫ້ນາເຈົ້າພໍ່ອານານິຄົມທ້ອງຖີ່ນ ແລ້ວ ລາກລົງຈາກອຳນາດ



ມີໂອກາດ ອ່ານບົດຄວາມຂ້າເທີງນີ້ແລ້ວ

ຊ່ວຍ(ຖ້າມິເວລາ) ແກ້ຂ່າວໃຫ້ທານແດ່ເດິ



ຂອບໄຈ

ອ່ານຂໍ້ຄວາມຂ້າງເທີງນິ້ເຮັດໃຫ້ຜູ້ຂ້າຫວນຄຶນຫລຽວໄປເບີ່ງເຫດການຫລັງ1975

ທີ່ ປາກຊ່ອງ ດິນແດນ ຂອງພວກຂ້າຕະໂອ່ຍທັງຫລາຍ

ພວກແນວລາວເຂົ້າມາໄຫ່ມ ໄປໂຄສນາຊວນເຊື່ອ ຕາມບ້ານນອກຂອກຄຳເມ

ຫລາຍເດືອນຜ່ານໄປ ເຫັນວ່າຂ້າເຂົ້າໄຈການເມືອງດິເດັ່ນແລ້ວກະມອບຫລຽນຍ້ອງຍໍໃຫ້


ໄອ້ຂ້າ ແນວວ່າຄົນຊື່ນໍ ກະເວົ້າຕາມກົງໂຫລດ

ຫລຽນເຈົ້າຂ້ອຍບໍ່ຍາກໄດ້

ຂ້ອຍຍາກໄດ້ ຫໍ່ເກືອ

ດຣ ແມ້ວຍັງ ສະຫາຍບ້ານສະຄືນ ຂ້ອຍວ່າພວກເຈົ້າໄດ້ຣັບການສືກສາສູງ ກ່ວາຂ້າເມືອງປາກຊ່ອງແທ້ໆເດີ

ແຕ່ຄວາມສຫວາດພວກເຈົ້າບໍ່ທັນກົ້ນຂິ້ຂ້າເມືອງນີ້ແທ້ໆ

ตอนฝ่าย เวียงจันทน์เป็นรัฐบาล พวกโจรเหี้ย ปอสามปอสี่ก็ด่าไส่ร้ายป้ายว่าว่าเขาส้อโกลงหลี้นพักชูพวกแม่จ้างนางเล้งเต็ม วจ และ ที่ แน่ๆ ไม่ทำอะไร หลี้นแต่ไพ้ เดียวนี้โคตรแม่มันลุกสหูมนหมารับใช้มัน ที่ ปารีส บักไชชนะทานาดาบุด ก็ด่าเ้หืมอนเดีม)

พอชาวบ้าน วางอำนาจให้เขาครอง ปท นี้ก่วา30ปี

มีอะไร ที่เห็นสมควนจะยกย้อง

ไม่มีเลีย เห็นทางเดียว ยกลงคอนพระเพ็ง
เพราะ
สังคมลาว ยามนี้ เปิ่อยเยิอย เปิ้อนเปีแบบไม่มีในยุึคใดจรีงๆ ลุกสาวพรรคห้นาดีๆ กายเป็นกระหรี่ เต็ม วจ อยังไม่พอ
เสิอก ส่งนอก ทั่ว ปทท
ึคาชีโน มี กี้แห่งแล้ว
Special economic Zone10พัน กลม มนทน ขายให้นักลงทุนต่างชาตี 99 ปีทำไม ที่ ปท ต้องสูณเสย
เ อ ก ร า ช ทางด้าน ภาษา ภาษี การเงีน ความหั้มนคงของ ปท ศาล และ แรงงาน แล้วพวกมริงเมื่อ60ปีก่อนแล่นออกป่าจับปืนทำไม
ไม้ลาว ทำไมป่อยให้โึครแกวมันเข้ามาลักตัด จน แกวกายเป็น เจ้าโลกกับการส่งไม้ออกสู่ต่างแดน
แรงงานทำไมต้องข้ามไปให้โจรสยามขูดฮีดข่มเห็งทารุณ
และที่แน่แน่ทำไมชาวบ้านยากจนต้องจ่ายค่าโตะเพื่อส่งลูกเขาเข้าโรงเรียนละ ทำไม่เจ็บเป็นต้องให้พวกเขาขายวัวขายควาย มาจ่ายค่าโรงหมอละ

คำตอบทุกคำตอบมู้งไปที่ พวกโจร500 กำลังนั่งดูดโลหีต ชาวบ้านอยู่เวลานี้นะ

หมายความว่า
พวกสุ เป็น
คนขี้อิจฉา คนบ้าอำนาจ คนเห็นแก่ตัว คนไม่มีจิตสำนึก คนที่ไม่ใช่มนุษย์ แม้แต่สัตว์เดรฉานทุกชนิดยังเทีียบไม่ได้เลย
ขอร้องอย่ากวนใจปชชเลย อย่าหาเรื่องเลย ไหนว่าตัวเองเป็นผู้ดีเก่ลงกล้าไม่ใช่หรือ ทำไมผู้ดีเขาทำกับบ้านเมืองเหมือนเด็กเล่นขายของอย่างนี้หรือ ทำตัวสูงแต่จิตใจต่ำนี่แถมสกปรกด้วย คุณอยากให้คนนับถือ แต่คุณเคยนับถือคนอื่นหรือเปล่า
เชาด่าฝ่าย วจ ได้แล้ว
พากันหอบครอบหอบครัวกับถ้ำชำเหนิอ บ่อนพวกสุมาได้แล้ว

เรียน ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของคนลาวภาค ตวอฉหน
คน ส่วนใหญ่ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ล้วนไม่มองว่าคนลาวภาคนี้เป็นศัตรูกับประเทศชาติ ที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และมีการกล่าวดูถูกเหยียดหยาม พร้อมแสดงความคิดเห็นให้มีการตัดภาคนี้ออกจากปทท
เราคนเชื้อสายลาวที่ไม่ รับร่างรัฐธรรมนูญ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากจะตัดเราออกจากปทท เพื่อให้ไทยมีความเจริญตามความเห็นของคนส่วนใหญ่ในนี้
เรายินดีที่จะดูแล ตัวเอง ด้วยการพัฒนาตัวเอง จัดเก็บภาษีของเราเอง วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของเราเอง เลือกส.ส.ที่มาจากคนภาค ตวอฉหนของเราเอง
อย่าให้ลูกหลานภาคอื่นมาสวมสิทธิการเป็นคนลาวภาคนี้ แล้วเอาเงินมาหว่านซื้อเสียง เพื่อมาเป็นส.ส.ภาค ตวอฉหน ก็แล้วกัน
ให้พวกท่านจับลูกหลานคนภาคอื่น ขังไว้ให้ดี อย่าปล่อยมาเพ่นพ่านในภาคตวอฉหน
ภาค ตวอฉหน เป็นดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ มีวัฒนธรรม มีภาษา มีดนตรี มีขนบธรรมเนียมของ
คนเชิ้อสายลาว เป็นภาคที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในปททมีประชากรก่วะ30ล้านคน มีส.ส.ได้มากที่สุดของปท 135 คน
การ ที่ท่านเห็นว่า การไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของคนลาวภาคนี้เป็นศัตรูของปททเป็นศัตรูกับทหาร เรายินดีหลีกทางออกไปอยู่ในถิ่นฐานของเราเองนะ
เรียน ทุกท่านที่ไม่ชอบการตัดสินใจของคนล า ว ภาค ตวอฉหน
ดิฉันเป็นคน ล า ว โดยรากเหง้า รู้สึกชอบใจในทุกความเห็นของผู้ที่เสนอแนะให้กระทำการลงโทษต่อคนลาวภาค ตวอฉหน ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราต้องการให้เกิดขึ้น เช่น ความคิดเห็นที่มองว่าคนลาว โง่ อยากให้ตัดภาคนี้ ออกจากประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ดี ภาค ตวอฉหน เรามีจำนวนส.ส.มากที่สุดในประเทศ มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศ มีประชากรมากที่สุดในประเทศ มีโอกาสทางการค้ามากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ โดยเป็นประตูสู่อินโดจีน
หากให้เราจัดเก็บภาษีของเราเอง แล้วนำเงินภาษีนั้นมาพัฒนาท้องถิ่นของเราเอง ไม่ต้องส่งเข้าสู่ส่วนกลาง เราสามารถที่จัดการบริหารดูแลตัวเองได้ ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง
หากท่านแยกเราออกจากประเทศไทย เราจะไม่ให้คนนอกพื้นที่เข้ามาเป็นสวมสิทธิคนลาวเพื่อสมัคร ส.ส. ซึ่งปัจจุบันส.ส.ส่วนใหญ่ล้วนมีถิ่นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากลูกหลานคนลาวภาคนี้ อาศัยว่ามีเงิน เข้ามาเป็นส.ส. เพื่อใช้เป็นช่องทางในการค้ากำไรกับประเทศชาติ ไม่สนใจพัฒนาแผ่นดินภาค ตวอฉหน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1600 ปี มีวัฒนธรรม มีภาษา มีดนตรี ฮีด12ครรอง14 มี identitiy ของตนเอง(แตกต่างกับชาวสยามปานฟ้ากับดีนนะ)มีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นของเราเอง เช่น ประสาทหินพิมาย พนมรุ้ง ซึ่งล้วนมาจากสมองของบรรพบุรุษของเรา
นอกจากนี้ เรายังมีที่ดินทำมาหากินของเราเอง แม้เราจะไปทำงานในพื้นที่ใดของประเทศ หากเราตกงาน ก็ยังมีที่ดินในการทำมาหากิน มีบ้านให้อยู่อาศัย
หากการตัดสินใจไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พวกท่านที่มองว่าคน ล า ว โง่ ยอมขายสิทธิ แล้วต้องการตัดพวกเราออกจากประเทศไทย เราขอน้อมรับด้วยความยินดี

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

ชาวลาวจากภาค ตวอฉหน

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=41009

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thai-glory&date=19-04-2007&group=1&gblog=8

http://www.youtube.com/watch?v=e3H90VZ30bs

http://www.youtube.com/watch?v=Fkik7wIf5tM

http://www.youtube.com/watch?v=Gdfx4xsgL6M&feature=related

....แล้วคิดว่าไงทำคนอื่นได้แต่พวกตัวเองห้ามแตะไม่งั้นกูจะฆ่าล้างโลก เฮ้ยนี้มันเห็นแก่ตัวนี่หว่า
รู้จักไมคำว่าถูกผิดอะ? ใครอยากเป็นขี้ข้า ลาว คมน ลูกแหล้งตีนมือแกวหัวขอด....!!!
ไอ้พวก ลาว คมน ที่จริงถ้ายังอยากทำดีซักครั้งในชีวิต ช่วยกันบอกพวกๆเถอะว่า:สปปลาวไม่
มีแต่การ"ลากตั้ง" ไห้อิสระ มีการการเลือกตั้งแบบเสรีประชาธิปไตยซักครั้งในชีวิต
ช่วยกันบอกพวกๆเถอะว่า :
พวกมัน เห็นแก่ตัว !!
พวกมัน เบียดเบียน ปชช ลาว !!
พวกมัน เผด็จการ !!
พวกมัน บ้าอำนาจ !!
พวกมัน โกงกินชาติบ้านเมือง !!
พวกมัน ฆ่าล้างโลก !!
พวกมัน โกงประชาชน !!

พวกมัน ขายชาตีขายแผ่นดีน!!สร้างspecial economic zone ทำให้ สปปล สูณเสยเอกราชทุกรูบแบบให้เจ็กและแกว ทังๆ60ปีก่อน โคตรโจรมันพากันแล่นออกป่าเพื่อเรียกร้องสี่งนี้จรีงๆ
พวกมัน ยอมรับใช้เจ้าพ่ออานีคมท้องถี่นแกว ถีงอดีด นย บัวสรไม่พอไจ ลุกขื้นตบโตะไส่ ย่างออกจากกรองประชูมที่กำแพงนคร วจ จนในที่สุดแกวอู้มลูกชายมัน คิอ สะหายแกวทองสีงปอ3ขื้นมาแทน ท่าน บัวสรที่ถูกลากออกจากทุกตำแห่นงสำคันของ ปท

สปปลาว "ไม่ต้องการระบอบการปกครองเสรีประชาธิปไตย''เพราะโจรห้นาชีเมนมันกลัวอนาคดการเมืองมัน

คมนลาว ไม่ แค่ยีงเป่าครับ!!แต่ฆ่าล้างโลกครับ !!

คมนลาว ไม่โง่ครับ.!!
แต (1975 )ขอทาน แดกห่าครับ !!คมนลาว ลาว ดี เหลือเกินครับ ยอมเป็นทาษแกวที่เป็นปท ทุกยากที่สุดในโลก!!

ชาวลาวโชกร้ายจรีงๆนอ

ທ່ານ ດຣ ຄຳເຜິຍຢ່າລືມນະ ໃນກອງປະຊູມສະພາເຕັຍ ຄັ້ງຕໍ່ໄປ ລາກຄໍ

ລູກຊາຍບັກໄກສອນ(ສັນຕິພາບ)ຂື້ນມາອະທີບາຍເລື້ອງການເກັບພາສີເຂົ້າພຣະຄັງພັກ

ແລະ ອີ່ວຽງທອງ860ລ້ານດອນ ລູກສາວບັກຫ້ນາແຫ້ລສົບເວີແກວເມືອງໂຂງພະໄຫ່ຍ ຣມຕການຄັງ

ວ່າ ເງີນທີ່ລາວນອກຝາກໃຫ້ເກຶອບ40 000 000 000 ລ້ານ ດລ 36 ປິ ຜ່ານມາ ພັກ ເອົາໄປເຮັດຫຍັງ??

ເຂດເສຖກິດພິເສດ 10ພັນ ກລມ ມົນທົນ ມອບໃຫ້ນາຍທືນເຈັກມີການຜ່ານຄວາມເຫັນຊອບຈາກສະພາບໍ??

ດິນດອນຕ່ອນຫຍ້າໃຫ້ແກວສັປທານເຖີງ4ແສນເຮກຕາຣເດ??

ແລະທີ່ສຳຄັນທີ່ສຸດ ສັນຍາພິເສດລາວແກວປິ77 ຈະຊື້ນສຸດລົງໃນປິ 2012
ແຕ່ລະຝ່າຍມີສິດ ກ່ອນ1 ປິ ທົບທວນໃນສະພາ ຖົກຖຽງເອົາຍັດຕິ ຈາກ ສສ ຍົກເລິກສັນຍາເປັນຂິ້ຂ້າແກວນິ້ໄດ້ແລ້ວ

ສາທຸ ຂໍໃຫ້ທ່ານມິຄວາມກ້າຫານທ້າທາຍສະຫາຍໄຊສົມພອນແທ້ໆເດິ

ສາທຸອິກຄັ້ງນື່ງ

ສາທຸສາທຸ ເປັນເທື່ອສຸດທ້າຍ

ເສັ້ຍຫລານຍ່າຈາກ ວຽງຈັນ ເອົາເງີນມາແຕ່ໄສໃຫ້ບໍລີສັດ ເຍິຣະມັນ 20 ລ້ານ ເອິໂຣເພື່ອເປັນຄ່າຈຳນຳຍົນ
ບາດໄປຈ່ອງຮ້ານອາຫານ ບອກວ່າຊີມາກິນ 25 ຄົນ
ແທ້ໆແລ້ວ ສັ່ງແຕ່ໄສ້ອົ່ວກາຣິເຍີຣະມັນ 4(ສີ່)ຕ່ອນ ກັບກາປູຊິໂນ 10ຈອກມາແດກ ບໍ່ຍອມຮອດນັ່ງກິນ
ໄປວັບ ບໍ່ເຫັນຮອດສົ້ນ( ຢ້ານຈ່າຍຫລາຍ ບໍ ລູກຊາຍເຈົ້າພໍ່ມະຫາເສດຖິໂລກ 35 ພັນລ້ານ ??)
ຖິ້ມເງິນໃຫ້ເຈົ້າຂອງຮ້ານແຕ່ 200(ສອງຣ້ອຍ) ອຣ

ໄປປັບບໍ່ເຫັນຮອດສົ້ນ

ນິ້ລະສັນດານຊັ່ວໆຂອງຣາຊວົງອັບປຣີ

ຈະມາສ້າງຄວາມຍີ່ງໄຫ່ຍ ນອກ ຣາຊອານາຈັກສຍາມເຈົ້າໄດ້ຢ່າງໃດ ??
ເພາະບ້ານນິ້ເມືອງນິ້ ເຂົາມິກົດຫມາຍ ທີ່ ໄປເຖິງທຸກໆຄົນ ທີ່ ຕ້ອງບໍ່ຢູ່ເຫນຶອ ກົດ ຫມາຍ
ຈະເປັນ ສາມັນຊົນ ກະຄື ເທວະດາເຈົ້າ

ຕ້ອງຢູ່ໄຕ້ກົດຫມາຍ
ຕ້ອງຢູ່ໄຕ້ກົດຫມາຍ
ຕ້ອງຢູ່ໄຕ້ກົດຫມາຍ


พระบารมีล้นพ้นระงับข้อพิพาท

วันจันทร์ ที่ 01 สิงหาคม 2554 เวลา 12:28 น


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อใช้ในการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทย-บ.วอลเตอร์ บาว เยอรมนี กรณียึดเครื่องบินส่วนพระองค์

วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง การอายัดเครื่องบินพระที่นั่งส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กรณีพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทวอลเตอร์ บาว (Walter Bau AG) ความว่า ตามที่ศาลสูงสุดแห่งรัฐเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 ก.ค.54 ให้ดำเนินการอายัดเครื่องบินพระที่นั่งของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ไว้เป็นของกลางในคดีพิพาทระหว่างบริษัทวอ ลเตอร์ บาว กับรัฐบาลไทยและศาลแขวงแลนส์ฮูต มีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค.54 ให้วางเงินประกัน 20 ล้านยูโร เพื่อถอนอายัดเครื่องบินพระที่นั่งดังกล่าวนั้น

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่มีคำพิพากษาของศาลสูงสุดแห่งรัฐเบอร์ลิน และคำสั่งของศาลแขวงแลนส์ฮูต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จนถึงปัจจุบัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มิได้ทรงตอบโต้แต่ประการใดต่อคำพิพากษาและคำตัดสินดังกล่าว รวมทั้งต่อกระแสข่าวทั้งจากในและต่างประเทศ ทรงเคารพต่อคำพิพากษาของศาลและทรงเชื่อมั่นในความยุติธรรมของกระบวนการ ยุติธรรม ด้วยทรงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลและประชาชนของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในระหว่างที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงพำนักอยู่ในสหพันธ์สาธารณรัฐ เยอรมนี ทรงได้รับการต้อนรับ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆเป็นอย่างดี

แม้ว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะมิได้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทวอลเตอร์ บาว และมิได้ทรงเป็นผู้สร้างเรื่องหรือเหตุการณ์ข้อพิพาทขึ้นมาแต่ผลจากข้อพิพาท ดังกล่าวได้นำมาซึ่งความเดือดร้อนพระราชหฤทัย กระทบต่อพระราชกรณียกิจ และเสี่ยงต่อการเสื่อมเสียพระเกียรติยศเป็นอย่างยิ่ง

ในการนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชกระแสและพระราชปณิธานที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทยและทรงใช้หนี้บุญ คุณให้กับประเทศชาติ ในพระราชฐานะที่ทรงเป็นประชาชนชาวไทยพระองค์หนึ่ง และทรงเป็นองค์สยามมกุฎราชกุมารของประเทศไทย อีกทั้งมิให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสหพันธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี และเพื่อให้ข้อพิพาทดังกล่าวจบลงด้วยดี และรวดเร็ว จึงจะพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อนำไปใช้ในการระงับข้อพิพาทดัง กล่าว ทั้งนี้ไม่ทรงปรารถนาที่จะให้มีพระนามาภิไธยไปเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทและมิ ให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศ

--@--รัฐบาลเร่งยุติคดีไทย-เยอรมนี

ครม.น้อม รับพระราชบัณฑูร สมเด็จพระบรมฯสั่งเร่งยุติคดีโดยเร็วที่สุด พร้อมหามาตรการพิทักษ์ทรัพย์สินรัฐบาลไทยในต่างแดน “มาร์ค”เข้าเฝ้าฯถวายรายงานเย็นนี้

วันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานสถานการและมาตรการในการดำเนินการกรณี เครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่ถูกยึดในประเทศเยอรมนี ทั้งนี้นายจุลสิงห์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ อัยการสูงสุดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่ถูกยึดที่ประเทศเยอรมนี มาหารือโดยเป็นวาระจรพิเศษ ซึ่งทางอัยการสูงสุดได้นำเสนอ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการว่าจ้างทนายความในคดีต่างๆ ค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งครม.ได้รับทราบและเห็นชอบอนุมัติเงินจำนวนดังกล่าว ส่วนกรณีโบอิ้ง 737 นั้น ครม.ได้รับทราบ แถลงการณ์ ของส่วนราชการในพระองค์แล้ว และจะยึดเป็นแนวทางในการดำเนินการเร่งรัด ระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยและบริษัท วอลเตอร์ บาว เพราะกรณีที่มีการยึดเครื่องบินส่วนพระองค์ทำให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระ ยุคลบาท ครม.จึงมีมติเห็นชอบแนวทางที่จะให้ยุติคดีนี้โดยเร็วและไม่ให้ระคายเคือง เบื้องยุคลบาท โดยเฉพาะในคดีใหญ่ โดยทางอัยการสูงสุดได้รับทราบมติดังกล่าวแล้ว รวมทั้งให้ไปดำเนินการหามาตรการพิทักษ์ทรัพย์สมบัติของคนไทยในต่างประเทศ เพราะหากคดียังไม่สิ้นสุดฝ่ายอายัดทรัพย์ก็คงไปตามอายัดทรัพย์ ของรัฐบาลในสถานที่ต่างๆจนทำให้เกิดเหตุผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา

นายอำพน กล่าวต่อว่า ครม.น้อมรับพระราชบัณฑูรตามแถลงการณ์และจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะนำความกราบบังคมทูลสถานการณ์ล่าสุดให้ทรงทราบก่อน หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แถลงรายละเอียดด้วยตัวเองอย่างไรก็ตาม การวางหลักประกันในคดีใหญ่ที่เป็นลักษณะการวางค้ำประกันก็เป็นแนวทางหนึ่ง ที่อัยการสูงสุดเสนอมา ซึ่งทางอัยการสูงสุดได้เสนอมาหลายแนวทาง และแนวทางหนึ่งคือการใช้ จดหมายค้ำประกัน และครม.ยึดหลักตามพระราชบัณฑูรว่า จะต้อเร่งรัดคดีใหญ่ให้เสร็จโดยเร็ว.

Voice of Lao Polical Prisoners


036. 08 . 2011.


Subject: Urges it to ensure unhindered and independent access by UNHCR and humanitarian agencies to all returnees in resettlement sites at Phalak and Nongsan in Vientiane Province and Phonkham in Borikhamsay Province.



AMNESTY INTERNATIONAL
PUBLIC STATEMENT


AI Index: ASA 26/003/2010
29 September 2010


Lao People’s Democratic Republic: Amnesty International urges immediate
and unconditional release of long-held peaceful demonstrators, to guarantee
freedom of speech, and to fully respect the rights of asylum-seekers


Human Rights Council adopts Universal Periodic Review outcome on Lao People’s
Democratic Republic


Amnesty International welcomes the engagement of the Lao People’s Democratic Republic
with the Universal Periodic Review as part of its stated efforts to promote and protect human
rights.


It deeply regrets, however, that the Lao People’s Democratic Republic rejected the
recommendation to release peaceful demonstrators.


1 - At least five men were arrested on 26 October 1999 for attempting to hold a peaceful demonstration in Vientiane and calling for peaceful economic, political and social change. Three are reported to remain in detention despite having completed their 10-year prison sentences. Thongpaseuth Keuakoun, a father of seven children, Seng-Aloun Phengphanh and Bouavanh Chanhmanivong should have been released at the latest in October 2009.


Amnesty International strongly urges the Lao authorities to demonstrate its commitment to protecting human rights in practice and to release the three men immediately and unconditionally.


Amnesty International welcomes the government’s support of those recommendations, announced in the Addendum to the report of the review, that call for full implementation of provisions in the International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR) related to freedom of speech, including through review of domestic legislation.


2 - The organization is disappointed, however, that recommendations to revoke laws that suppress the right to freedom of expression and assembly were rejected.


3 - The reasons provided for rejection appear to reflect the government’s wish to retain the strong limitations on the right to freedom of expression currently in place, which are contrary to the ICCPR provisions it claims to support.


Amnesty International urges the government to reconsider its position on these recommendations.
Several states made recommendations with regard to the thousands of Lao Hmong, including
refugees and asylum-seekers forcibly returned from Thailand to Laos in December 2009.


4 - Amnesty International regrets the government’s only partial support for these recommendations
and urges it to ensure unhindered and independent access by UNHCR and humanitarian agencies
to all returnees in resettlement sites at Phalak and Nongsan in Vientiane Province and Phonkham in Borikhamsay Province.


While the authorities have organized several visits to these sites for diplomats and journalists, full and free access was not provided and opportunities for returnees to speak freely to the visitors without repercussions were extremely limited. This hampered a proper assessment of conditions and treatment of returnees.


The Lao government has a responsibility to respect the right of all persons to seek asylum, as
provided in the International Covenant on Civil and Political Rights, and Amnesty International
1
A/HRC/15/5, paragraph 99.3.
2
A/HRC/15/5, paragraphs 98.41, 98.43 and 98.44, and A/HRC/15/5, Add.1, paragraph 1.
3
A/HRC/15/5, paragraphs 98.42 and 98.45, and A/HRC/15/5, Add.1, section III, paragraphs 25 and 26.
4
A/HRC/15/5, paragraphs 98.27, 98.28, 98.29, 98.30, 98.31 and 98.32.

เราสู้เพื่อ การปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็คือ … 1) อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน และประชาชนเป็นผู้ใช้ ไม่ใช่กษัตริย์communistเป็นผู้ใช้ … 2) ประชาชนจะต้องมีเสรีภาพบริบูรณ์ … 3) ประชาชนทุกคนต้องมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน … 4) กฎหมายจะต้องขึ้นอยู่กับหลักกฎหมาย … 5) รัฐบาลจะต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น และมีอำนาจเหนือกองทัพ

ຂ້ານ້ອຍດີໃຈເມື່ອໄດ້ຮູ້ວ່າລັດທະບານໄດ້ມີແຜນການທີ່ຈະສ້າງຜ່າຍກັ້ນນ້ຳບ້ານຂ້ານ້ອຍ ໂຄງການໄດ້ເລີ່ມລົງມື້ຢ່າງໄວວ່າ....ແຕ່ປະກົດວ່າພາກສ່ວນທີ່ກ້ຽວຄ່ອງມາຕັດເອົາຕົ້ນ

ໄມ້ອອກໄປມົດແລ້ວ ໂຄງການດັ່ງກ້າວ ເລີ່ມບໍ່ມີຄວາມຄືບຫນ້າເລີຍ...ຂ້ານ້ອຍເລີຍຍາກ

ຖາມອາຍາທ່ານຜູ້ມີຄວາມຮູ້ສູງວ່າ..ເພາະເງື່ອນໄຂໄດ ຈິ່ງບໍ່ມີຄວາມຄືບຫນ້າ.

1/.ເງີນທີ່ລັດທະບານຍີ່ປຸ່ນຊ່ວຍເຫລື່ອໃນໂຄງການນີ້ມັນຫາຍໄປໃສມົດ ຫລື ເອົາມູນໄຊ່ໃນໂຄງ

ການອື້ນ...

2/ ໂຄງການນີ້ລັດຖະບານຮູ້ວ່າມັນທຳລາຍສັບພະຍາກ່ອນທຳມະຊາດຢ່າງກວ້າງແຕ່ເປັນຫຍັງ

ລັດຖະບານເຖີງທຳ...

3/ ເມື່ອດຳເນີນງານແລ້ວ ເປັນຫຍັງໂຄງການນີ້ຈິງບໍ່ດຳເນີນຕໍ່ໄປ..

4/ ຕົ້ນໄມ່ທີ່ຕັດໄປລັດຖະບານຄືບໍ່ຫາ...ຕົ້ນໄມ່ທີ່ຖືກຕັດໄປ..

5/ ໂຄງການຢຸດນີ້ງ ແຕ່ທຳມະຊາດຖືກທຳລາຍຢ່າງກວ້າງໄກ ແລະ ເຮັດໃຫ້ບໍ່ມີຄວາມດຸນຂອງ...

ຂ້ານ້ອຍພໍຈະຮູ້ວ່າ ລັດຖະບານຍາກທຳໃຫ້ປະຊາຊົນມີຄວາມສຸກ ແຕ່ເປັນຫຍັງໂຄງການ

ນີ້ ຈິ່ງຢຸດນີ້ງ ແຕ່ຖ້າດູແລ້ວບ້ານຂະນ້ອຍ ມີສັບພະຍາກອນທຳມະຊາດອຸດົມສົມບູນ ເຫມື່ອນ

ກັບວ່າ ໂຄງການນີ້ ຕັດເອົາໄມ່ເພື່ອຜົນປະໂຫຍດສ່ວນຕົວຫລາຍກວ່າ ** ໂຄງການເຄື່ອນກັ້ນນ້ຳ ບ້ານ ຫນອງລຳຈັນ ເມືອງຈຳພອນ ແຂວງສະຫວັນນາເຂດ **

ຂອບໃຈສຳລັບເຈົ້າຂອງເວ໊ບໄຊນີ້ ທີ່ໃຫ້ຂ້ານ້ອຍໄດ້ປະກອບຄວາມເຫັນ

Out of control, Drugs, alcohol, sex in public, in LaoPDR no law enforcement.
ການບໍຣິການ ນັກທ່ອງທຽ່ວຕ່າງປະເທດສ້າງບັນຫາຫນັກໃຈແກ່ຜູ້ໃຫ້ບໍຣິການເປັນຕົ້ນ Drugs,
ການບໍ່ນັບຖືກົດໝາຍ, ການເປື້ອນເປີ້, ການທໍາອະນາຈານ ຊຶ່ງເປັນການທໍາລາຍປະເພນີ.
http://www.youtube.com/watch?v=1do2EJleOEY&feature=player_
embeddedLaos tubing craze 'destroying town'

ຢ່າສວຍໂອກາດ ແຊກຊ້ອນແນວຄິດຕ້ານປະເທດເພື່ອນບ້ານມາ ດ່າຢູ່ໃນທີ່ນີ້...ຂໍໃຫ້ທ່ານເວົ້ແຕ່ບັນຫາລາວໂດຍສະເພາະ

Press Releases:
LAO PDR's COURT SYSTEM is ZERO of the world.
Khamphoui Sisavatdy,
RLGE' Prime Minister


July 31, 2011


LAO PDR's COURT SYSTEM is ZERO of the world.


__________________________________________________________

The world today belongs to the new awaken and conscious people who can be able to stand responsible for their lives, their interests and also for their nations. So the world today is our home of mankinds over 1500 millions of world populations. Since Lao PDR took power and controled our country over 36 years. Even if Lao countrys is rich land filled with alot of national resources, gold, jewelry, loggs, now they build many dams around the country invested with 2-3 hundreds or thousand millions dollars by many foreign countries, and also Lao PDR now is living in stability no war,no terrorist groups.


But until today, Lao PDR is the 25 poorest country of the world, in various corners of prostitutes, eveyrwhere filled with the beggars who have waiting for foreigners to give something to their naked hands. Many Lao citizens bowed their heads in Thaliand for jobs, many of them are selling their labours in low prices, and many Lao girls and kids have been wandering selling the sexs for money in Thailand.


Lao PDR fundamental ideas as well as the brians of their leaders are very poor which you can join conclusions in their Constitution August 14th 1991 as follow;


(1) Preamble of some paragraphs in their Contstitution wriiten with very respect to Vietnam... it said that... over the past 60 years, under the correct leadership of the former Indochinese Communist Party,....... thus opening the new era and era of genuine Independence for the country and freedom for the people....
( Maybe Lao PDR, only the one country of the world who write the Highest Law of their country,
Crawling and bowing their heads to respect to other nations spirits...other Nation's honorary
qualifications... those of the low brains leaders are Lao PDR.)


(2) its Constitution, the 3rd Article written that... The Rights of the Multi-ethnic people to be the Master of the country are exercised and ensured through the functioning of the political system with the Lao People's Revolutionary Party as its leading neucleus.


And its Constitution 5th Article said... the national Assemby and all other state Organizations are established and function in accordance with the principle of Democratic Centralism .PAXATHIPATAY ROUAMSOON..
( or Democracy of small groups of people who exercised their power by the guns.)

The two of Articles in Lao PDR' s Constitutions are very out of date, it is the corrupted Constitution, applying to the corrupted groups of people and the robbers, the bad groups until nowaday, but all the people inside Laos until today never raised any questions to the Floor, Beause, I think they are all stupid or maybe they are all the people of low ideology or they are servants of Keo Hanoi.


______________________________________________________________________


Mr Bounthanh Pousavanh
Freedom Lao Movement
Canberra - Australia
August 3, 2011

It is right, say it again right again


ລາວສວັນ ລູກຫລານພໍ່ກະດວດ




On Mon, May 16, 2011 at 10:36 AM, Jonh Anouvong
wrote:

Why should we worry about the election in Laos....look at Myanma,
even they have guests from UN to observe , still the result was comming
out the same group of dictators to form the government..

I think we should also stop relying on RLGE nor PGNU any more....
These organazations are only fake... they even might be working for
LPDR since long long time ago....or these poeple will never go any
where , they work for themself not for Lao poeple.........

Keep working and developing our Human right organization is enough...
collecting evidences that they have violated, evidences of corruptions,
evidences of overlaoded of foreigners in Laos , evidences of violating
the natures and environment, collecting evidence that noncooperating
to support the world green .......all of these will help Lao poeple who
are unnable to voice up for their life...because these evidences are inclued
in the purpose of Human Right of the world poeple.....appeal for the
remains of those dead Sammanakones that they killed, bring those for
their relatives and............

Submit to the UN, to the ASEAN organization and all international
community organizations........and see what will be in return.........

สวัสดีแฟนๆ ลาวโฮมลาว ที่นับถือ

หวังว่าท่านและครอบครัวคงสุขสบายดี การเมืองลาวจะประสพชัยชนะได้นั้นอยู่กับคน
ลาวที่ตื่นตัวรู้ว่าไครคือมิตร์แท้-และศัตรู ต้องมีความอดทน-เสียสละจรึ่งจะได้มา ทุกอย่า
ไม่ได้เปล่า...ทุกสิ่งในชีวิตการ
เมืองจะต้องเป็นไปตามวิถีทางของมัน ผลแห่งการเมืองก็คือผลแห่งการกระทำของนักกา
เมืองเอง นักการเมืองที่ดีจริงๆ
จึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบุรุษ,และนักการเมืองชั่วๆอย่าคิดว่าประชาชนเขาจะไม่รู้
ทำไมนักการเมืองจึ่งไม่เรี่มปูทาง
ไปสู่ความเป็นรัฐบุรุษ ด้วยการทำความดี,หรือว่าความเห็นแก่ตัวบังดวงตาของท่านไว้ไม่
ไห้เห็นความจริงในเรื่องนี้...
ขอไห้ทุกๆท่านจงพร้อมกันลุกขื้นมาปลดปล่อยเสรีภาพ-ประชาธิปไตยไห้แก่ชาติของตนเองเถีด
36 ปี่านไปแล้วชาติของ
ท่านกำลังตกอยู่ในความลำบาก-ทุกข์จน-ขาดสิทธิเสรีภาพทุกอย่าง รอแต่ัวันล่มสลายและศูนย์
หายไปเช่นเดียวกับอดิตร์
ที่ผ่านมาเช่น16แขวงภาคตระวันตกที่คนลาวทุกๆคนเรียกว่า"ลาวภาค ตวอฉหน สยาม ปท
"เป็นพลเมืองชั้น
สองของสยามประเทศไทยทุกวัน ทังๆ เป็นคนส่วนไห่ยของ บ้านนี้เมืองนี้ เช่นเดียวกับภาษาลาว
ทำไม ภาษาของคนส่วนไห่ยถีงถูก ภาษาเจ้าพ่อ กดขี่ ข่มเห็ง ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม
นี้ต่อไปลาวฝั่งตระวันออกก็จะเป็นพลเมืองชั้นสองของเวียตนามในประเทศของตนเอง...
นักการเมืองแกวหัวขอด มาใช้ ภาษาเวียด ไข สภาเต้ยลาวแดง

นั้มแม่นจุดเลีม ของการ บอกชาวโลกว่า สปปล กาย เป็นแขวงหนื่งของแกวไปเสียแล้วอย่างเปีดเผีย
แปว่า อา๊ณานีคมยุคไห่ม ได้เกีดขื้นแล้ว ใน ดันแดน อดีตลาวล้านช้าง

โชกร้ายไห่ม ชาวลาวทังโลก ที่ มีผู้นำชั่วๆ โง่ๆ อ่อนเีพีย ในการครองเมือง อ่อนเเต้ม ใน
การตัดสีนไจเป็นเจ้าพ่อตนเองยอมจำนน ในยามสงบเป็นขี้ข้าม้าไช้ฝให้ ปท ทุกยากที่สุดในโลก

กูบ็ยออมแล้วเดร บักจูม บก ไอ้เหี้ย ทองสีง บักลูกแกว ไชสมพร สันตีภาพ สันยาขี้ลัก พมวีหี

Bravo pour votre travail infatigable pour la mère patrie et le peuple lao lao. S'il vous plaît allez-y.
Voici mes suggestions:
1 / la mise en place d'un programme de manifestation pacifique réclamant l'indépendance, la démocratie, l'intégrité territoriale du Laos et multipolitical etc ..parties pour le Laos;
2 / approbation de ce programme par votre équipe;
3 / la formation d'un comité représentant de votre groupe d'utiliser son influence auprès du Secrétaire d'Etat américain et les Nations unies du Conseil de sécurité;
4 / poser les aider à parler à Lao communiste de Vientiane et au gouvernementthaïlandais dans le cas où nous ferons la démonstration dans le pont Norng Khai pour éviter arrestation;
cette manifestation sera organisée sous les Etats-Unis et la supervision de l'ONU soiten Norng Khai mariée ou en ce que la saison des festivals Luang


laohomlao's members


I think Mr Blacksaphire has good point and it has potential to become a reality
My suggestion is we should study the strategies of the Red Shirt group to unite and motivate people to join in demonstration
In this forum we have 17 to 20 people as ring Leaders I think we more than enough to set an organization.
After that we can set the procedures
1. Set up an advertising camp propaganda to motivate and encourage Laonork to standup in every state every country
2. If it is possible that someone has connections or relatives in Thailand to get intouch with the Red Shirt group to gain and cooperate
3. Lao nai stays tune and expand networking under ground wait for the signal from Lao nork when the time comes.
4. In this event it may be sacrificed our brave men

Perfect idea to bring the Grass root campaigns to this forum and we
have to get the cooperation from Lao Leaders Abroad to join as a team.
The Multi - ethnic is necessary for our priority of the the leadership.
It is possible if they intend to unify to do together. The circumstances
are a big problem for all of us such as the employment, the transpor
or travelling, pocket money, family and visiting Laos.


Many people can talk only but it is hard for them to join the practical task.
We are worry about our young generation who are not interested to follow
the step of Lao ancestor to fight for democracy in Laos. If our generation
fails so the young people will be accepted Laos as is.


Some aged person just complains or refers the mistake to each other.
They try to close door and talk about Lao people only and not step up to the international level. If we look Tibet after Dalai Lama and the new educated
leader is very young.


Perfect idée de mettre les campagnes racine d'herbe à ce forum et nous devonsobtenir la coopération des dirigeants laotiens à l'étranger à rejoindre une équipe. Lemulti - ethniques est nécessaire à notre priorité de la direction de l'.
Il est possible s'ils ont l'intention d'unifier à faire ensemble. Les circonstances
sont un gros problème pour nous tous, comme l'emploi, le transport ou en
voyage, argent de poche, la famille et de visiter le Laos.

Beaucoup de gens peuvent parler seulement, mais il est difficile pour eux de rejoindrela tâche pratique. Nous nous préoccuper de notre jeune génération
qui ne sont pasintéressés à suivre l'étape de l'ancêtre Lao de se battre pour la démocratie au Laos.Si notre génération ne sorte que les jeunes seront
acceptés au Laos est aussi.

Certaines personne âgée se plaint tout ou renvoie l'erreur à l'autre. Ils essaient defermer la porte et de parler de peuple lao et non pas au niveau
international. Si nous regardons le Tibet après le Dalaï Lama et le nouveau chef instruits est très jeune.


Internet communication is great and yet not enough - we need grass
root campaigns on local basis through out the country any where there're
Lao people (I mean all ethnic groups). We need any and all so-called leadership groups to meet regularly and get trained for a uniformed update in all
aspects including but not limited to strategy, ethics, etc. - we tend to talk
too much about helping Laos and the Lao People in Laos, and yet we neglect completely and totally about those who struggle all around us... Our younger generations are losing their own cultural identity, their cultural heritage...
and those don't mean any thing to you guys? -we are playing the loser
card, aren't we [with the loser attitude and mentality]?


English to French translation

De communication sur Internet est grand et pourtant ne suffit pas -
nous avons besoin de campagnes de racine d'herbe sur le plan local à
travers le pays où il ya toute êtespeuple lao (je veux dire tous les groupes
ethniques). Nous avons besoin de tout et detous les groupes soi-disant
leadership se rencontrer régulièrement et se former pourune mise à jour
en uniforme dans tous les aspects, y compris mais non limité à la stratégie,
l'éthique, etc - nous avons tendance à trop parler aider le Laos et laRépublique démocratique populaire lao au Laos , et pourtant nous négligeons
complètement et totalement de ceux qui luttent partout autour de nous ...
Nos jeunes générations perdent leur propre identité culturelle, leur patrimoine culturel ... et ceux quine veut pas dire quelque chose à vous les gars?
-nous sommes en jouant la carteperdante, n'est-ce pas [à l'attitude e
la mentalité perdant]?

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ นักทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจำนวนมากเห็นว่า ภาวะการครองความ
เป็นใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังลดต่ำลง เพราะว่าโลกเริ่มแตกเป็นหลายขั้ว เมื่อมีจีน รัสเซีย และญี่ปุ่น
ที่แสดงออกทางการเมืองอย่างเป็นอิสระต่อกัน และในหลายกรณีขัดแย้งโดยตรงกับสหรัฐฯ

ในบทความนี้จะทดลองกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ลาวเป็นกรณีศึกษา
โดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการครองความเป็นใหญ่ใส่ลงในบริบทของสังคมการเมืองภายในประเทศ
เพื่ออธิบายว่าชนชั้นที่ครอบงำสังคมไทยกำหนดทิศทางความสัมพันธ์กับต่างประเทศอย่างไร พวกเขา
ใช้พลังทางเศรษฐกิจใส่ลงไปในนโยบายต่างประเทศที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร ในขณะที่ลาว
ซึ่งเป็นประเทศเล็กกว่า และตกอยู่ในฐานะของฝ่ายตั้งรับ พยายามหาทางต้านทานอย่างไร



ชนชั้นที่ครองความเป็นใหญ่และนโยบายเพื่อครอบงำ

หลังสงครามเย็นสภาพแวดล้อมทางการเมืองระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลง
ทางการเมืองภายในของไทยและสภาพแวดล้อมของประเทศเพื่อนบ้านในอินโดจีน กล่าวคือในห้วงกลาง
ทศวรรษ 1980 นั้น สหภาพโซเวียตได้หันไปใช้นโยบายเปิดกว้างทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจก่อนที่
จะล่มสลายไปในที่สุดโดยผลของมันคือ ผลักดันให้ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่เคยอยู่ในค่ายสังคมนิยมสหภาพโซเวียตเปลี่ยนแปลงไปด้วย ทั้งเวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยในลาวนั้นเริ่มหันมาใช้แนวทางที่เรียกกันว่า จินตนาการใหม่ [ตามคำของลาว] (New EconomicMechanism-NEM) มีการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ
เปลี่ยนจากแนวทางการวางแผนส่วนกลางมาใช้เศรษฐกิจแบบตลาดแทน และเปิดต้อนรับการลงทุนจาก
ต่างประเทศ

สภาพการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยก็เปลี่ยนแปลงไปมากด้วย นับแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.
2516 กลุ่มราชการที่เคยครองความเป็นใหญ่ในรัฐสูญเสียฐานะลงไป และได้ตีกลับมาในช่วงหลังเหตุการณ์
6 ตุลาคม คือในอีก 3 ปีต่อมา โดยอาศัยภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นตัวหนุนส่ง
โดย รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ใน สังคมเศรษฐกิจไทยในทศวรรษ 2550 [4] ได้เสนอว่าราชการได้สูญเสีย
การครอบงำ

รัฐและการกำหนดนโยบายไประหว่างสมัยรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ก่อนที่จะยึดคืนมาได้อีกในช่วง
หลังการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ในปี 2534 และนำนายอานันท์
ปันยารชุน อดีตนักการทูตผู้มีประสบการณ์ในทางธุรกิจมาเป็นเวลายาวนาน เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง
เมื่อทำการเปรียบเทียบจำนวนรัฐมนตรีในรัฐบาลชาติชายและรัฐบาลอานันท์ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 และรัฐบาลพลเอก สุจินดา คราประยูร พบว่าคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลอานันท์มีนักธุรกิจเพียง 16
เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ในขณะที่รัฐบาลชาติชายและแม้แต่รัฐบาลสุจินดา ซึ่งแม้จะเคยเป็นทหาร แต่
ได้อาศัยฐานของพรรคการเมืองสนับสนุน มีนักธุรกิจมากกว่าครึ่งของจำนวนคณะรัฐมนตรีทั้งหมด แต่อย่าง
ไรก็ตามงานของรังสรรค์ในปี 2536 [5] ได้ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลอานันท์จะมีพวกเทค
โนแครตมาก แต่บุคลิกของรัฐบาลแตกต่างจากรัฐบาลของรัฐราชการสมัยเก่ามากเพราะพวกเทคโนแครต
ในรัฐบาลอานันท์มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มธุรกิจ อีกทั้งรัฐบาลหลังจากอานันท์คือ รัฐบาลชวน หลีกภัย,
บรรหาร ศิลปอาชา และชวลิต ยงใจยุทธ มีบุคลิกเหมือนรัฐบาลชาติชาย คือเป็นพันธมิตรของกลุ่มธุรกิจที่
ใช้การเลือกตั้งเป็นบันไดการเมืองไปสู่การควบคุมอำนาจรัฐและกำหนดทิศทางของประเทศ

วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ทำให้เศรษฐกิจหดตัวอย่างมาก พร้อมๆ กับทำลายกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะใน
กลุ่มการเงินการธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ ทำให้พันธมิตรทางการเมืองของกลุ่มบรรหาร ชวน และชวลิต
หดหายไปมาก และเปิดโอกาสให้นักธุรกิจหมื่นล้านในกลุ่มโทรคมนาคมแทรกตัวโดดเด่นขึ้นมา เพราะเป็น
กลุ่มที่เสียหายจากวิกฤตน้อยที่สุดหรือแทบจะไม่เสียหายเลย โดยเกษียร เตชะพีระ แห่งคณะรัฐศาสตร์
ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทักษิณสามารถรวมเอาเทคโนโลยี โนว์ฮาว และความโนว์ฮู (know how &
know who) คือการมีสายสัมพันธ์มากของเขา เป็นบันไดแห่งความเติบโต [6] ในขณะที่ อุกฤษฎ์
ปัทมานันท์ และดันแคน
แมกคาร์โก [7] เห็นว่าทักษิณประสบความสำเร็จในการรวบรวมกลุ่มเศรษฐกิจการเมืองเข้ามาอยู่ในเครือ
ข่ายของตนได้ จนเรียกว่าเป็นมาสเตอร์ของพวงต่างๆ และอัมมาร สยามวาลา จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา
ประเทศไทย เห็นว่าทักษิณไม่ใช่นักการเมืองของพันธมิตรเจ้าพ่อท้องถิ่นอีกต่อไปแล้วแต่เขาสร้างแฟรน
ไชส์ทางการเมืองได้ประสบความสำเร็จ [8] สามารถควบรวมคนอื่นๆ ให้เข้ามาอยู่ในเครือข่ายพรรค
ไทยรักไทย (ในเวลานั้น) ได้สำเร็จและค่อนข้างราบรื่น

แต่ไม่ว่าจะมองทักษิณในรายละเอียดต่างกันแค่ไหนอย่างไร แต่ส่วนใหญ่แล้วมองเห็นจุดร่วมกันประการ
หนึ่งคือ เขามีเศรษฐกิจและธุรกิจเป็นธงนำในการบริหารและกำหนดทิศทางของประเทศ รัฐบาลพลเอก
สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาจากการยึดอำนาจโค่นล้มทักษิณมีความแตกต่างกันในแง่บุคลิกลักษณะ
แต่ถ้าใส่ลงในบริบทความสัมพันธ์ไทย-ลาวแล้ว จะเห็นได้ว่าดำเนินนโยบายเหมือนกันหรืออาจ
จะกล่าวได้ว่าเป็นนโยบายเดียวกัน (ดังจะกล่าวต่อไป)

ในบริบทของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวกลุ่มธุรกิจ (ในคณะรัฐมนตรี) ได้เข้ามากำหนดทิศทาง
ของนโยบาย นับแต่หลังสงครามเย็นเป็นต้นมา หรือถ้าจะกล่าวให้ชัดกว่านั้น นับแต่สมัยรัฐบาลชาติชาย
เป็นต้นมา และรัฐบาลหลังนับแต่นั้นก็นำเรื่องเศรษฐกิจเข้ามาอยู่ในนโยบายต่างประเทศและ ได้สร้างกล
ไกเพื่อเอื้ออำนวยการดำเนินนโยบายและการดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบาย นั้นด้วย ดังเช่นที่คำผุยแก้ว
บัวละพา อดีตรอง-นายกรัฐมนตรีของลาวได้กล่าวเอาไว้ในสมัยนั้นว่า ธุรกิจเป็นศูนย์กลางความสัมพันธ์ระหว่าง
ไทยและลาว [9] ประเทศไทยดำเนินนโยบายเพื่อดูดซับเอาทรัพยากรของลาวเพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
ศรษฐกิจของไทย

ในยุคแรกๆ เมื่อรัฐบาลชาติชายเปิดประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้านนั้น การดำเนินความสัมพันธ์ไม่สู้เป็นระบบมาก
นักส่วนใหญ่แล้วจะมุ่งหาทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นสินค้าขั้นปฐมเช่น ไม้ท่อน ไม้ซุง และแร่ธาตุเพื่อ
ป้อนอุตสาหกรรมแปรรูปในประเทศไทย บางครั้งเมื่อเกิดปัญหาขัดแย้งในทางธุรกิจกัน ก็ไม่มีกลไก
จัดการแก้ไขปัญหา ต่อมาในสมัยรัฐบาลอานันท์จึงได้มีการลงนามในสัญญาจัดตั้งคณะกรรมการร่วมในเดือนพฤษภาคม 2534 ซึ่งในสมัยนี้เองมีการลงนามในสัญญาต่างๆ จำนวนมากรวมทั้งคณะกรรมการชายแดนเพื่อจัดระเบียบให้กับความสัมพันธ์และเป็นกลไกเอื้ออำนวยให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศราบรื่น

ประเทศไทยได้ปรับทิศทางความสัมพันธ์กับลาวอีกครั้งหนึ่งในสมัยรัฐบาลชวน โดยนำบริบทของ
ภูมิภาคนิยม (regionalism) ซึ่งกำลังกลายเป็นแฟชั่นของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ได้รับ
ความนิยมอย่างมากในช่วงท้ายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 เข้ามาเป็นแกน นั่นคือการ
รวมกลุ่มเศรษฐกิจของภูมิภาคต่างๆ เช่น Asia-Pacific Economic Cooperation (APEC),
North America Free Trade Agreement (NAFTA) และกลุ่มอาเซียนก็มีเขตเศรษฐกิจแบบ
เสรีเป็นของตนเองแล้ว

รัฐบาลชวนได้ริเริ่มโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ซึ่งมีไทย ลาว พม่า และจีน (ตอนใต้) เป็นสมาชิกขึ้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เส้นทางคมนาคมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการค้า
การท่องเที่ยว และการลงทุนในพื้นที่บริเวณภาคเหนือของไทย ลาว พม่า และภาคใต้ของจีนด้านมณฑล
ยูนนาน บริษัทเอกชนหลายบริษัทเริ่มดำเนินโครงการลงทุนสร้างถนนหนทางในพื้นที่ดังกล่าว แต่หลาย
โครงการเช่นการพัฒนาถนนเชื่อมจีน-ลาว-ไทย ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงได้ในเวลานั้น หาก
แต่ล่วงเลยมากระทั่งปี 2551 จึงสามารถพัฒนาได้สำเร็จและเปิดใช้งานได้

การสร้างถนนหนทางนั้นแม้จะล่าช้าแต่ก็ทำให้ไทยมีเส้นทางขนส่งที่สะดวกขึ้นเพื่อการค้าขายเชื่อมโยงกับจีน
แต่สิ่งที่ประเทศไทยต้องการจากลาวมากกว่านั้นคือแหล่งพลังงานรัฐบาลชวนได้ลงนามในบันทึกความ
เข้าใจในปี 2536 เพื่อซื้อกระแสไฟฟ้า 1,500 เมกะวัตต์จากลาว (รัฐบาลต่อมาๆ เช่นรัฐบาลบรรหาร
ได้เพิ่มเป็น 3,000
เมกะ วัตต์ในการลงนามในบันทึกความเข้าใจในปี 2539) และพร้อมกันนั้น บรรดาบริษัทก่อสร้างและรัฐ
วิสาหกิจทางด้านพลังงานไฟฟ้าของไทยก็เข้าไปเป็น หุ้นส่วนในการก่อสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าในลาว
และรัฐบาลไทยทุกรัฐบาลไม่ว่าจะมีที่มาจากกลุ่มการเมืองแบบใดก็ล้วนแล้วแต่ พยายามผลักดันโครง
การการสร้างเขื่อนในลาวให้สำเร็จเพื่อผลประโยชน์ทางด้าน พลังงานทั้งสิ้น

ตัวอย่างโครงการที่มีการดำเนินการผ่านมาหลายรัฐบาลคือ โครงการเขื่อนน้ำเทิน 2 โครงการนี้เริ่มมี
การศึกษากันตั้งแต่ทศวรรษ 1970 หลังจากพบศักยภาพด้านพลังงานในลำน้ำเทินซึ่งเป็นสาขาของ 42
แม่น้ำโขง ในปี 2537 รัฐบาลลาวร่วมกับธนาคารโลกและโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติได้ศึกษา
ความเป็นไปได้โดยละเอียดอีกครั้ง และหลังจากนั้นได้มีการก่อตั้งกลุ่มบริษัทเพื่อพัฒนาเขื่อนน้ำเทิน
เริ่มทำการออกแบบโครงการ และในปี 2547 ได้มีการก่อตั้งบริษัทไฟฟ้าน้ำเทิน 2 (NTPC) ซึ่งมีบริ
ษัทจากไทยคือ บริษัทเอ็กโกถือหุ้น 25% และอิตาเลี่ยนไทยดีเวลลอปเมนต์ถือหุ้น 15% โดยเขื่อนนี้
มีกำลังการผลิต 1,070 เมกะวัตต์ และกว่า 90% ของกำลังการผลิตไฟฟ้านั้นจะส่งขายให้ไทย

การครอบงำและการต่อต้าน

แม้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความพยายามครอบงำทางเศรษฐกิจจากไทย แต่ลาวกลับไม่ได้ใช้ความสามารถทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือในการต่อต้าน หากแต่ใช้มิติทางวัฒนธรรมเป็นสำคัญ โดยอาศัยความอ่อนไหวทางด้านวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันมาเป็นเครื่องมือในทางการทูต เพื่อลดผ่อนความพยายามของไทยที่จะมีอิทธิพลเหนือลาวเพื่อตักตวงเอาผลประโยชน์ทางโภคทรัพย์

เขียน ธีระวิทย์ และคณะได้หยิบการกระทบกระทั่งกันทางวัฒนธรรมมาเป็นกรณีศึกษาเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ไทย-ลาวในสายตาคนลาว [12] โดยได้ศึกษากรณีข้อกล่าวหาว่านักร้อง นิโคล เทริโอ ดูถูกแม่หญิงลาว จากการศึกษาดังกล่าวนั้นพบว่าไม่อาจจะพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่านักร้องของไทยไม่ได้กล่าววาจาใดเป็นการดูถูกคนลาว แต่เรื่องนี้สหพันธ์แม่หญิงลาวก็หยิบขึ้นมาเป็นประเด็นและเรียกร้องให้มีการขอโทษ ซึ่งในที่สุดชวน หลีกภัย ขณะเดินทางเยือนลาวได้กล่าวขออภัยอย่างไม่เป็นทางการต่อรัฐบาลลาวในกรณีดังกล่าว เพื่อยุติข้อบาดหมางที่ไม่จำเป็น ในการวิจัยนั้น เขียนและคณะได้สรุปว่า เป็นความเข้าใจโดยทั่วไปของคนลาวว่า คนไทยเป็นชาติที่ชอบดูถูกคนลาวมากกว่าชาติใดๆ ในโลกนี้

เหียม พมมะจัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ซึ่งเคยเป็นทูตในประเทศไทยถึง 8 ปีได้สรุปเอาไว้ในวิทยานิพนธ์ปริญญาโททางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเขา [13] ว่าคนไทยชอบแสดงตัวว่าเหนือกว่า และพยายามดูถูกคนลาวซึ่งมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่กว่าไทย

ไทยและลาวมีความคล้ายคลึงกันหลายด้านโดยเฉพาะทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีแต่ลาวก็มีความหวั่นเกรงมากว่าวัฒนธรรมไทย ซึ่งลาวเชื่อว่าเปลี่ยนแปลงไปมากเพราะผลจากความใกล้ชิดตะวันตก จะข้ามแม่น้ำโขงโดยผ่านสื่อมวลชนโดยเฉพาะโทรทัศน์ ไปสร้างความเสียหายให้กับวัฒนธรรมของลาว ในปี 2547 กระทรวงข่าวสารและวัฒนธรรมของลาวสั่งห้ามเปิดโทรทัศน์ของไทยในที่สาธารณะ เช่น สนามบิน ร้านอาหาร โรงแรม และสถานีขนส่ง

วันทอง โพนจันเฮืองอธิบดีกรมสื่อสารมวลชน กระทรวงข่าวสารและวัฒนธรรมของลาวในเวลานั้นบอกว่า รัฐบาลลาวออกคำสั่งดังกล่าวเพราะไม่ต้องการเห็นอิทธิพลสื่อมวลชนไทยในลาวมากจนเกินไป เพราะว่าโทรทัศน์ไทยปรากฏในที่สาธารณะในลาวราวกับว่าเป็นแผ่นดินไทย [14] การสั่งห้ามสื่อมวลชนไทยเผยแพร่ในลาวนั้นมีปรากฏอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าสื่อนั้นจะเป็นข่าวสารหรือการบันเทิง หากลาวพิจารณาเห็นว่ามีสารที่แสดงออกถึงการดูถูกดูแคลนลาว จะมีการสั่งห้ามทันที เช่นกรณีของภาพยนตร์แนวขบขันเรื่อง หมากเตะ ซึ่งล้อเลียนนักฟุตบอลทีมชาติของลาว ที่ต้องอาศัยผู้ฝึกหัดคนไทย และต้องไปย้อมสีผม ขนรักแร้ เพื่อให้เหมือนฝรั่งและไปฝึกอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์เย็น เพื่อเตรียมตัวไปชิงแชมป์ฟุตบอลโลก ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวต้องเลื่อนการฉายออกไปเพื่อปรับปรุงใหม่เพราะลาวเห็นว่ามีเนื้อหาเป็นการดูถูกเหยียดหยามลาว [15] สถานทูตลาวในกรุงเทพฯ บอกว่า มีความจำเป็นต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นเพราะอาจจะเกิดความไม่พอใจในหมู่คนลาว และอาจลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศเหมือนกรณีการเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญเมื่อเดือนมกราคม 2546

ความพยายามต่อต้านการครอบงำทางวัฒนธรรมอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ง่ายในการ นำมาอธิบายปรากฏการณ์ที่ลาวหยิบประเด็นปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นมาอยู่บ่อยๆ แต่เหตุผลสำคัญประการหนึ่ง จากกรณีภาพยนตร์ หมากเตะ คือการที่นักลงทุนไทยสามารถทำเงินจากวัฒนธรรมลาวได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ลาวยังไม่ต้องการเห็นวัฒนธรรมของตนถูกนำมาใช้เชิงพาณิชย์มากจนเกินไป กรณีละครเรื่อง เพลงรัก สองฝั่งโขง ทางช่อง 7 เป็นกรณีน่าสนใจที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ด้วยเช่นกัน เพราะเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยความพยายามจะเชื่อมธุรกิจละครโทรทัศน์ด้วยการนำ อเลกซานดราธิดาวรรณ บุญช่วยนางเอกยอดนิยมลูกครึ่งลาว-บัลแกเรีย มาเล่นคู่กับพระเอกเวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ ของไทย ความจริงเรื่องนี้ควรจะเป็นตัวอย่างของความร่วมมืออันดีของวงการบันเทิงและงานวัฒนธรรมเชิงพาณิยช์ของสองประเทศ แต่ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อกระทรวงข่าวสารและวัฒนธรรมของลาวไม่ชอบใจบทบางตอน เป็นต้นว่า นางเอกคือจำปานั้นเป็นลูกนอกสมรสและพบรักกับหนุ่มไทยเร็วเกินไปเกรงว่าจะทำให้ภาพพจน์ของหญิงลาวเสียหายได้ ทางเวียงจันทน์เป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะกระทบกระเทือนต่อวัฒนธรรมประเพณีอันดีของลาว [16] สุดท้ายผู้ผลิตและผู้กำกับคือ ธงชัย ประสงค์สันติ ยอมแก้ไขบทและพลอยเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก เพลงรักสองฝั่งโขง เป็น เพลงรักริมฝั่งโขง ใช้พระธาตุพนมเป็นสัญลักษณ์ แทนที่จะเป็นพระธาตุหลวงในนครหลวงเวียงจันทน์

เบื้องหลังความขัดแย้งในคราวนี้ไม่ใช่ปัญหาทางด้านวัฒนธรรมจริงๆ แต่เป็นเรื่องความไม่ลงตัวทางด้านธุรกิจและความไม่พร้อมของฝ่ายลาวที่จะทำให้งานทางด้านวัฒนธรรมกลายเป็นธุรกิจ เพราะอเลกซานดราเป็นดาราที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในลาว ด้วยความสามารถทั้งทางด้านดนตรีและการแสดงทำให้เธอกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอยู่ในปัจจุบัน คู่แข่งทางธุรกิจในลาวไม่ต้องการเห็นเธอเข้ามาประสบความสำเร็จในประเทศไทยซึ่งธุรกิจบันเทิงเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล

เมื่อไม่อาจต้านทานได้โดยตรง ลาวจึงนิยมใช้ความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมเพื่อปกป้องการครอบงำจากไทยด้วยการ อธิบายว่าไม่ต้องการให้อุตสาหกรรมบันเทิงรุกเข้าไปลาวเร็วจนเกินไปนัก เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า อิทธิพลและคุณค่าแบบไทยสามารถเดินทางผ่านงานศิลปบันเทิงและสื่อสารมวลชนไป อยู่ในสังคมลาวได้โดยไม่ยากนัก

สรุป

ความเปลี่ยนแปลงที่ค้นพบในความสัมพันธ์ไทย-ลาวยุคหลังสงครามเย็น คือกลุ่มธุรกิจได้เข้าไปครอบงำกระบวนการในการผลิตนโยบายของการเมืองระหว่าง ประเทศได้โดยเบ็ดเสร็จ และการรัฐประหารในไทยสองครั้งหลังสงครามเย็น คือในปี 2534 และ 2549 กลับไม่ได้ทำให้โครงสร้างทางอำนาจการเมืองของกลุ่มธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่าง มีนัยสำคัญเลยเพราะพวกเขายังสามารถครองความเป็นใหญ่อยู่ในโครงสร้างการเมือง และกระบวนการตัดสินใจของรัฐบาลได้ ดังนั้นเราจึงพบว่าโครงการด้านการพัฒนาต่างๆ จึงกลายเป็นศูนย์กลางของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวความขัดแย้งเรื่องดิน แดนและปัญหาความมั่นคงที่ถึงขนาดเคยเป็นชนวนให้เกิดสงครามระหว่างสองชาติ ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เช่นกรณีสามหมู่บ้านและบ้านร่มเกล้าในเขตจังหวัดพิษณุโลกต่อกับแขวงไซยะบุรี กลับกลายเป็นปัญหาแค่เรื่องทางเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งอาศัยระดับเจ้าหน้าที่ดำเนินการร่วมกันปักปันเขตแดนได้ แม้ว่าจะดำเนินไปด้วยความล่าช้าแต่ก็จะไม่กลายเป็นปัญหาอะไรใหญ่โตในความ สัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอีก

ดังนั้น ลำพังรัฐเพียงอย่างเดียว จึงไม่ได้นั่งอยู่ในใจกลางของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวอีกต่อไป หากแต่รัฐทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เป็นผู้ครอบงำรัฐ คือภาคธุรกิจได้ดำเนินการสร้างความสัมพันธ์กับลาวทั้งในแง่การค้าและการลงทุนได้อย่างราบรื่น

กลุ่มพลังอื่นๆ (หากแม้นไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนชนชั้น) ไม่สู้จะมีบทบาทอะไรมากมายนักในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ตัวอย่างที่เคยยกเอาไว้ข้างต้นคือ กรณีของกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ประสบความล้มเหลวในการคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนน้ำเทิน2 ในลาว แน่นอนทีเดียว พวกเขามีโอกาสจะได้พูดในที่สาธารณะถึงเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ปัญหาคือไม่มีผู้เกี่ยวข้องคนใดหยิบความคิดความเห็นขององค์กรพัฒนาเอกชนและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญเลย

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวที่ขับดันด้วยพลังทางเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เท่าเทียม อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นความสัมพันธ์ที่ไทยแสดงการครอบงำหรือแสดงการครองความเป็นใหญ่ ซึ่งลาวไม่อยู่ในฐานะที่จะขัดขืนหรือต่อต้านอะไรได้มากมายนัก ส่วนใหญ่แล้วมักจะโอนอ่อนผ่อนตามกันไป โดยลาวได้นำมิติทางวัฒนธรรมมาแสดงการต่อต้านไทย ในบางกรณีดูเหมือนเทคนิคนี้จะได้ผล เพราะอาจจะทำให้ไทยหยุดฟังบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศแต่อย่างใด

อ้างอิง

[1] ปรับปรุงจากรายงานการวิจัยของผู้เขียน เรื่อง “Laos: A Reserve for Thai Growth” เสนอในการสัมมนาเรื่อง”Thai stakeholders’ perception toward countries in the Greater Mekong Sub-region” จัดโดยสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 8 พฤศจิกายน 2007 ณ GM Hall, SASA International House จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

[2] Michael P. Sullivan, Theories of International Relations: Transition vs. Persistence (New York: Palgrave Macmillian, 2002), p. 172.

[3] Antonio Gramsci, Selection from Prison Notebooks, 11th Edition (New York: International Publisher, 1992).

[4] รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์, สังคมเศรษฐกิจไทยในทศวรรษ 2550: ยุทธศาสตร์การพัฒนาในกระแสโลกานุวัตร (กรุงเทพฯ: คบไฟ, 2538)

[5] รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์, อนิจลักษณะของการเมืองไทย: เศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่าด้วยการเมือง (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ผู้จัดการ, 2536)

[6] Kasian Tejapira, “Toppling Thaksin,” New Left Review (May-June, 2006), pp. 5-37.

[7] Duncan McCargo and Ukrist Pathmanand, The Thaksinization of Thailand (Copenhegen: NIAS Press, 2005), p. 20.

[8] การอภิปรายในหัวข้อสัมมนาเรื่อง “พลวัตทุนไทยและแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจการเมืองของไทย,” ฟ้าเดียวกัน, 4: 3 (กรกฎาคม-กันยายน, 2549), หน้า 86-87

[9] สุทธิดา มะลิแก้ว, “วิถีทางของลาวหลังไกสอน,” ใน Indochina Review (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ผู้จัดการ, 2537), หน้า 76

[10] รายงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเรื่องพลังงาน, มกราคม 2544 รายงานฉบับนี้เสนอให้รัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร แสวงหาแหล่งพลังงานจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการสร้างเขื่อนสาละวินในพม่า

[11] นิยม ไวยรัชพานิช พูดในการสัมมนาเรื่องคอนแทร็กฟาร์มมิ่งในกรอบ ACMECS ที่โรงแรมเจริญศรีแกรนด์ รอยัล จังหวัดอุดรธานี วันที่ 18 พฤษภาคม 2550

[12] เขียน ธีระวิทย์ และคณะ, ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ในสายตาของคนลาว (กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544)

[13] Hiem Phommachanh, “Thai Policy and Attitudes towards Laos since 1975,” (Master of International Studies thesis: Department of Government and Public Administration, University of Sydney, 1991.) ອະດິດອະທີບໍດີປາກປ່າສັກ ລາວເກົ່າ ຈົບການສຶກສາມາຈາກ ການາດາ ຮັບໃຊ້ລະບອບ ວຈ ເນື່ອງຈາກມີໂຄດພໍ່ເປັນແກວຮັບໃຊ້ລາວແດງ ທີ່ ເຂດພູສີ ຊຳທອງລ່ອງແຈ້ງກ່ອນການປະຕີວັດ75 ຈື່ງເປັນຄົນດຽວທີ່ກ້າວຂື້ນສູ້ຕຳແຫ່ນງສູງສຸດ ຂອງ ປທ ຄຶ ກຳກະຊວງໄປສນີໂທຣະຄົມມະນາຄົມ ໃນຍຸກຣັຖບານຂອງ ແກວທອງສີງ
ນຍ ປໍ6 ຈາກຖ້ຳຊຳເຫນຶອ
ຄົນຕໍ່ໄປໃຫ້ລະວັງໄວ້ ບຸນເກິດສ້າງສົມສັກ ຈົບIRDA ຮູ້ນປິ 1973 ແລະ IIAP ຈາກ Paris1976 ໄອ້ເຫີ້ຍນີ້ກະໂຄດພໍ່ເຂົາເປັນຍວນຣັບໃຊ້ ຄມນ ແນວລາວ ທີ່ ປາກ ຊ່ອງ ເຄີຍເປັນ ທູດໄຫ່ຍ ປະຈຳ ບັງກອກ ໃນ ຕົ້ນທົສວັດ ທີ່ 80 ສຕວ ທີ່ ແລ້ວ ຈາກ ນັ້ນພັກ ລາກມາເປັນ ຣມຕຊ່ວຍກະຊວງຕ່າງ ປທ ເຊັ່ນດຽວກັບສະຫາຍຫ້ຽມ
ບຸນເກິດ ເນື່ອງຈາກຄົນໃນຮູ້ນເກົ່າ ປາກ ຝັຣ່ງອັງກິດໄດ້ ຈະໄປຮ່ວມປະຊູມນານາຊາດຢູ່ສເມີ ປິ 1991 ສມັຍ ຂເມນສາມຝ່າຍເຊັນສັນຍາກັນ ທີ່ ປາຣີສ ເຂົາ ກະໄດ້ ເຂົ້າຣ່ວມເປັນສັກຂີພີຍານໃນນາມຣັຖບານໂຈນ

[14] สัมภาษณ์ วันทอง โพนจันเฮือง อธิบดีกรมสื่อสารมวลชน กระทรวงข่าวสารและวัฒนธรรมลาว,
27 พฤษภาคม 2547

[15] สัมภาษณ์ สุวันนา พูยะวง อัครทูตที่ปรึกษา สถานทูตลาวประจำประเทศไทย, 14 พฤษภาคม 2549

[16] The Nation, February 14, 2007.
โพสต์ในกลุ่ม คอลัมนิสต์ออนไลน์

สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้
สปปล คงจะมีประเทศเดียวในโลกที่ ชาวบ้านอยากให้กษัตริย์ คมน ลาวแดง ข้าปอ3ตายไวๆเท้าที่จะไวได้