นายกฯ ยันเอเชีย-ยุโรปต้องเป็นหุ้นส่วนกันและกัน

เวลา 15.20 น.วันนี้ (5 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงการณ์ในการประชุมเต็มคณะ ว่าด้วย ประเด็นเศรษฐกิจและการเงิน ในการประชุมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 9 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ประมาณการณ์เศรษฐกิจโลก จะเติบโตและชะลอตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ในปี 2012 ดังนั้น เอเชียและยุโรปจึงจำเป็นต้องร่วมกันพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใน แนวทางใหม่ๆ เพื่อให้ทั้งสองภูมิภาคต่างเติบโตและส่งเสริมการจ้างงานระหว่างดัน ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตมีความยั่งยืนและมีมูลค่าอย่างแท้จริง ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองภูมิภาคต่อไป นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีจะต้องมาจากการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การใช้จ่ายสาธารณะและการลงทุนภาคเอกชน และสำหรับอาเซียนก็ต้องเร่งสร้างความเชื่อมโยงและการเจริญเติบโตไปด้วยกัน เพื่อการเป็นประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในปี 2015

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การเติบโตภายในประเทศและการเติบโตของภูมิภาคเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เนื่องจากการค้าและการลงทุนที่เข้มแข็งระหว่างภูมิภาคและทั่วโลก จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นเอเชียและยุโรปจึงต้องร่วมกันต่อต้านลัทธิการกีดกันการค้า และส่งเสริมการค้าและการลงทุนภายในภูมิภาคซึ่งกันและกันต่อไป  การสั่งซื้อสินค้าจากยุโรปยังคงมีความจำเป็นสำหรับหลายๆอุตสาหกรรมในเอเชีย รวมไปถึงการเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆของยุโรป อุปสงค์จากยุโรปยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภูมิภาคเอเชีย เพื่อร่วมกันรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายต่างได้รับประโยชน์

นายกรัฐมนตรียังได้เสนอต่อที่ประชุมว่า เอเชียและยุโรปจะต้องร่วมกันพิจารณาแนวทางการพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างสอง ภูมิภาค อาทิ “เส้นทางสายไหมในยุคใหม่” โดยนอกเหนือจากการคมนาคมทางน้ำและทางอากาศที่มีอยู่ในปัจจุบัน เอเชียและยุโรปควรสนับสนุนให้เกิดการคมนาคมบนพื้นดินระหว่างสองภูมิภาคด้วย ซึ่งโครงการระยะยาวการเชื่อมรถไฟความเร็วสูงจากไทยไปจีน และเชื่อมต่อไปยังฝั่งตะวันออกของรัสเซียและยุโรป ผ่านเส้นทางรถไฟสายทรานไซบิเรีย Trans-Siberian Railway ที่มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับการขนส่งตู้สินค้าและการปรับกฎระเบียบที่เอื้อ อำนวยความสะดวก ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการขนส่งสินค้าสดจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปยังยุโรป ทั้งนี้มั่นใจว่ายุโรปจะสามารถปรับและฟื้นตัวจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งไทยในฐานะส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการต่างๆ เพื่อสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วน และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันของทั้งสองภูมิภาค ผ่านการค้าและการลงทุนที่มีรากฐานมั่นคง เพื่อประโยชน์สุขที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง